ก. ไซโทพลาสซึมที่ไม่ได้พัฒนา

ข. มีท่อพิเศษให้ฮอร์โมนเคลื่อนที่ผ่าน

ค. มีถุงส าหรับเก็บฮอร์โมนในปริมาณมาก

ง. ตัวรับพิเศษซึ่งเกี่ยวพันกับการจับฮอร์โมน

ก.แอนติบอดี

ข.แอนติเจน

ค.เอนไซม์

ง.แอนติไบโอติก

  ก.เหมือนกัน  เพราะต่างก็เป็นการฉีดแอนติบอดีเข้าสู่ร่างกายเพื่อต่อต้านเชื้อโรค

ข.เหมือนกัน  เพราะต่างก็เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันมาต่อต้านเชื้อโรค

ค.ต่างกัน  เพราะวัคซีนเป็นการฉีดแอนติเจน  ส่วนซีรัมเป็นการฉีดแอนติบอดีเข้าสู่ร่างกาย

ง.ต่างกัน  เพราะวัคซีนเป็นการฉีดแอนติบอดี  ส่วนซีรัมเป็นการฉีดแอนติเจนเข้าสู่ร่างกาย

ก.น้ำนมแม่มีโปรตีนสูง

ข.น้ำนมแม่ไม่มีเชื้อโรค

ค.น้ำนมแม่มีแอนติบอดี

ง.น้ำนมแม่มีแอนติเจน

ก.การฉีดวัคซีน

ข.การฉีดซีรัม

ค.การฉีดทอกซอยด์

ง.การเล่นกับเพื่อนที่เป็นโรคติดต่อ

ก. อารมณ์

ข.อุณหภูมิ

ค.แสงสว่าง

ง.ถูกทุกข้อ

ก.ต่อมเพศในชาย-อัณฑะ และต่อมเพศในหญิง-รังไข่

ข.ต่อมเพศในชาย-อัณฑะ และต่อมเพศในหญิง-ไข่

ค.ต่อมเพศในชาย-องคชาต และต่อมเพศในหญิง-ช่องคลอด

ง.ต่อมเพศในชาย-องคชาต และต่อมเพศในหญิง-รังไข่

ก.อัณฑะ-สร้างตัวอสุจิ

ข.อัณฑะ-สร้างฮอร์โมนเพศชาย

ค.ถุงอัณฑะ-ปรับอุณหภูมิให้ต่ำกว่าอุณหภูมิร่างกาย

ง.ถุงอัณฑะ-สร้างอาหารมาเลี้ยงตัวอสุจิ

ก.เพศชายจะเริ่มสร้างอสุจิเมื่ออายุ 12-13 ปี

ข.เพศชายสามารถสร้างอสุจิได้ถึงอายุ 70 ปี

ค.การหลั่งน้ำอสุจิ 1 ครั้ง จะมีอสุจิเฉลี่ยประมาณ 350-500 ล้านตัว

ง.ตัวอสุจิสามารถอยู่ภายนอกร่างกายได้ประมาณ 2 ชั่วโมง

ก.รังไข่

ข.มดลูก

ค.ช่องคลอด

ง.ปีกมดลูก

ก.รอบเดือนของผู้หญิงเฉลี่ย 28 วัน

ข.สุดาคลอดบุตรโดยการผ่าออกทางหน้าท้อง

ค.ฝาแฝดเกิดจากการที่อสุจิเข้าไปในเซลล์ไข่มากกว่า 1 ตัว

ง.เมื่ออสุจิมีการปฏิสนธิกับนิวเคลียาของไข่ หายของอสุจิจะเข้าไปในนิวเคลียสของเซลล์ไข่ด้วย