No student devices needed. Know more
40 questions
เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ทรงกระทำพิธีปราบดาภิเษกนั้นเจ้าฟ้ากุ้งทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น
ก. เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไชยเชษฐ์สุริยวงศ์
ข. เจ้าฟ้ากรมขุนเสนาพิทักษ์
ค. กรมพระราชวังบวรสถานมงคล
ง. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร
เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรทรงพระนิพนธ์กาพย์เห่เรือขึ้นเนื่องในโอกาสใด
ก. ในงานฉลองกรุงศรีอยุธยา
ข. โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศไปนมัสการพระพุทธบาท
ค. ในงานเทศกาลทองดผ้าพระกฐิน
ง. โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศประพาสทางน้ำในเดือนสิบสอง
วรรณคดีต่อไปนี้ ข้อใดเป็นพระนิพนธ์ของเจ้าฟ้ากุ้งทั้งสองเล่ม
ก. โคลงชะลอพระพุทธไสยาสน์ กับ นันโทปนันทสูตรคำหลวง
ข. กาพย์เห่เรือ กับ ปุณโณวาทคำฉันท์
ค. โคลงนิราศพระบาท กับ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
ง. พระมาลัยคำหลวง กับ กาพย์ห่อโคลงนิราศพระบาท
ลักษณะคำประพันธ์ของกาพย์เห่เรือคือข้อใด
ก. เป็นคำประพันธ์ที่แต่งด้วยกาพย์เห่
ข. เป็นคำประพันธ์ที่แต่งด้วยกาพย์ยานีและโคลงสี่สุภาพ
ค. เป็นคำประพันธ์ที่แต่งด้วยกาพย์ยานี โดยมีโคลงสี่สุภาพนำ ๑ บท
ง. เป็นคำประพันธ์ที่แต่งด้วยกาพย์ยานีสลับกับโคลงสี่สุภาพบทต่อบท
กาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ไม่มีลักษณะข้อใด
ก. บทพรรณนาชมสัตว์ป่า
ข. บทพรรณนาชมนกชมไม้
ค. บทรำพึงรำพันถึงนางผู้เป็นที่รักทำนองนิราศ
ง. บทพรรณนาชมไพร่พล
กาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร สมควรได้รับความยกย่องว่าเป็นเลิศในด้านใด
ก. ชมโฉม
ข. แสดงภาพพจน์
ค. พรรณนาโวหาร
ง. แสดงลักษณะการเห่เรือ
ศิลปะที่เกิดขึ้นสัมพันธ์กับโอกาสที่พระมหากษัตริย์เสด็จประพาสชลมารคคือข้อใด
ก. วิจิตรศิลป์ และ วรรณศิลป์
ข. นาฏศิลป์ และ วรรณศิลป์
ค. วิจิตรศิลป์ และ นาฏศิลป์
ง. วรรณศิลป์ และ สังคีตศิลป์
ข้อใดคือจุดมุ่งหมายในการเห่เรือของไทย
ก. เพื่อเป็นพุทธบูชา
ข. เพื่อใช้ในพระราชพิธี
ค. เพื่อบูชาเทพเจ้า
ง. เพื่อให้จังหวะฝีพายและให้ความเพลิดเพลิน
สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเล่าว่า ในการเห่เรือเมื่อเที่ยวกลับนั้นต้องเห่....เพราะ...
ก. ช้าลวะเห่เพราะพายทวนน้ำเรือจึงเคลื่อนไปได้ช้า
ข. สวะเห่เพราะให้เข้ากับจังหวะฝีพายที่จ้ำลงถี่
ค. มูลเห่เพราะเป็นพื้น ๆ ทำนองธรรมดา
ง. มูลเห่เพราะพายทวนน้ำใช้ทำนองที่จะให้เข้ากับจังหวะพาย
เรือพระที่นั่งเมื่อจวนจะถึงที่ประทับ คนเห่จะเห่ทำนองใด
ก. มูลเห่
ข. โห่เห่
ค. สวะเห่
ง. ช้าลวะเห่
การใช้ลำนำการเห่เรือแบบใดที่ฝีพายจะบรรจงพายให้งามได้
ก. มูลเห่
ข. โห่เห่
ค. สวะเห่
ง. ช้าลวะเห่
บทเห่เรือเล่นของเจ้าธรรมธิเบศร ได้นำมาใช้เป็นบทเห่เรือหลวงในสมัยใด
ก. พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
ข. พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ค. พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ง. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานว่าการเห่เรือหลวงมีคำว่า “เหยอวเย่อว” เพราะเหตุใด
ก. คงจะเป็นคำศักดิ์สิทธิ์ในการเห่เรือ
ข. คงจะเป็นลำนำการเห่เรือของอินเดีย
ค. คงจะเป็นคำบอกจังหวะให้ฝีพายพายพร้อมกัน
ง. คงจะกลายมาจากมนตร์ในตำราไสยศาสตร์ของพวกพราหมณ์
หน่วยราชการที่รับผิดชอบโดยตรงในการจัดกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค คือข้อใด
ก. ราชนาวีไทย
ข. กองราชเลขานุการ
ค. สำนักพระราชวัง
ง. กองการพระราชพิธี
กาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรมีลักษณะการดำเนินเรื่องเช่นไร
ก. สัมพันธ์กับเวลาใน ๑ ชั่วโมง
ข. สัมพันธ์กับเวลาใน ๑ วัน
ค. สัมพันธ์กับเวลาใน ๑ เดือน
ง. สัมพันธ์กับเวลาใน ๑ ปี
กาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรสะท้อนให้เห็นสภาพเมืองไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายอย่างไร
ก. การคมนาคมใช้ทางน้ำเป็นสำคัญ
ข. การจราจรติดขัด เพราะสภาพน้ำท่วม
ค. มีการละเล่นทางน้ำที่สนุกสนานเมื่อถึงหน้าน้ำ
ง. ในแต่ละปีจะมีงานนักขัตฤกษ์ ซึ่งมีการเห่เรือหลวงโดยใช้บทเห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร
กระบวนเรือที่พรรณนาไว้ในกาพย์เห่เรือมีลักษณะอย่างไร
ก. เป็นกระบวนเรือรบ
ข. เป็นกระบวนเรือที่มีหัวเรือเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ
ค. เป็นกระบวนเรือในพระราชพิธีพยุหยาตราทางชลมารค
ง. เป็นกระบวนเรือที่ประดับประดาด้วยดอกไม้ต่าง ๆ สวยงามมาก
ไม้ที่ต่อเสริมหัวเรือให้งอนเชิดขึ้นไป เรียกว่าอะไร
ก. กิ่ง
ข. เส้า
ค. โกลน
ง. โขน
“แก้มช้ำช้ำใครต้อง อันแก้มน้องชำเพราะชม
ปลาทุกทุกข์อกตรม เหมือนทุกข์พี่ที่จากนาง”
คำประพันธ์ข้างต้นนี้ใช้ศิลปะในการแต่งบทใด
ก. ใช้คำซ้ำ
ข. สัมผัสอักษร
ค. เล่นคำ
ง. สัมผัสสระ
คำประพันธ์ในข้อใดให้คุณค่าทางด้านสังคม
ก. นวลจันทร์เป็นนวลจริง เจ้างามพริ้งยิ่งนวลปลา
ข. คางเบือนเบือนหน้ามา ไม่งามเท่าเจ้าเบือนชาย
ค. เพียนทองงามดั่งทอง ไม่เหมือนน้องห่มตาดพราย
ง. กระแหแหห่างชาย ดั่งสายสวาทคลาดจากสม
“ชาย” ในข้อใดที่มีความหมายต่างกับข้ออื่น
ก. คางเบือนเบือนหน้ามา ไม่งามเท่าเจ้าเบือนชาย
ข. กระแหแหห่างชาย ดั่งสายสวาทคลาดจากสม
ค. ไพเราะเพราะกังวาน ปานเสียงน้องร้องสั่งชาย
ง. ชายใดในแผ่นดิน ไม่เหมือนพี่ที่ตรอมใจ
“น้ำเงินคือเงินยวง ขาวพรายช่วงสีสำอาง
ไม่เทียบเปรียบโฉมนาง งามเรืองเรื่อเนื้อสองสี” “สองสี” ที่กล่าวไว้ข้างต้นนี้คือสีอะไร
ก. ดำแดง
ข. ดำเหลือง
ค. ขาวเหลือง
ง. ขาวแดง
ข้อใดให้ทั้งจินตภาพและอารมณ์สะเทือนใจ
ก. งามทรงวงดังวาด งามมารยาทนาดกรกราย
งามพริ้มยิ้มแย้มพราย งามคำหวานลานใจถวิล
ข. จำปาหนาแน่นเนื่อง คลี่กลีบเหลืองเรืองอร่าม
คิดคะนึงถึงนงราม ผิวเหลืองกว่าจำปาทอง
ค. เวรามาทันแล้ว จึงจำแคล้วแก้วโกมล
ให้แค้นแสนสุดทน ทุกข์ถึงเจ้าเศร้าเสียดาย
ง. เรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง นกบินเฉียงไปทั้งหมู่
ตัวเดียวมาพลัดคู่ เหมือนพี่อยู่ผู้เดียวดาย
“มาสู่สุขคืนเข็ญ หม่นไหม้” มีความหมายตรงกับข้อใด
ก. กลางวันมีความสุข กลางคืนกลับมีแต่ความทุกข์
ข. เธอมีความสุข แต่พี่กลับมีแต่ความทุกข์หม่นไหม้
ค. มาเที่ยวหวังจะได้ความสุข แต่กลับต้องได้รับความทุกข์
ง. ใจมีความทุกข์ แต่ร่างกายได้รับความสุขสะดวกสบายดีทุกอย่าง
ข้อใดไม่ใช้วิธีอุปมาในการประพันธ์
ก. นกแก้วแจ้วแจ่มเสียง จับไม้เรียงเคียงคู่สอง
เหมือนพี่นี้ประคอง รับขวัญน้องต้องมือเบา
ข. ไก่ฟ้ามาตัวเดียว เดินท่องเที่ยวเลี้ยวเหลี่ยมเขา
เหมือนพรากจากนงเยาว์ เปล่าใจเปลี่ยวเหลียวหานาง
ค. แขกเต้าเคล้าคู่เคียง เรียงจับไม้ไซ้ปีกหาง
เรียมคะนึงถึงเอวบาง เคยแนบข้างร้างแรมนาน
ง. ดุเหว่าเจ่าจับร้อง สนั่นก้องช้องเสียงหวาน
ไพเราะเพราะกังวาน ปานเสียงน้องร้องสั่งชาย
ครุฑผูกใจเจ็บนาค เพราะ
ก. มารดของตนถูกนาคแกล้ง
ข. มารดาของนาคแกล้งมารดาตน
ค. นาคเป็นลูกเลี้ยงของบิดาตน
ง. บิดาของตนถูกพระกัศยปบิดาของนาคแกล้ง
ความในข้อใดที่แฝงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของบุคคลได้อย่างแยบยลที่สุด
ก. แก้มช้ำช้ำใครต้อง อันแก้มน้องช้ำเพราะชม
ข. เนื้ออ่อนอ่อนแต่ชื่อ เนื้อน้องหรืออ่อนทั้งกาย
ค. รวยรินกลิ่นรำเพย คิดพี่เคยเชยกลิ่นปราง
ง. เหมือนพี่นี้ประคอง รับขวัญน้องต้องมือเบา
“ยามสองฆ้องยามย่ำ ทุกคืนค่ำย่ำอกเอง”
“ยามสอง” คือเวลาอะไร
ก. สองทุ่ม
ข. เที่ยงคืน
ค. ตีสอง
ง. ย่ำค่ำ
“หลังคาแดงแย่งมังกร” มีความหมายตรงกับข้อใด
ก. หลังคามีลวดลายเป็นมังกรแดง
ข. หลังคาสีแดงมีลวดลายเป็นรูปมังกร
ค. หลังคามีรูปมังกรสีแดง
ง. หลังคาแดงเป็นรูปมังกร
“พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย
กิ่งแก้วแพร้วพราย พายอ่อนหยับจับงามงอน”
“พระ” ในคำประพันธ์ข้างต้นนี้หมายถึงผู้ใด
ก. พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
ข. เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร
ค. พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศและเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร
ง. เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรและพระชายา
“พิศพรรณปลาว่ายเคล้า คลึงกัน
ถวิลสุดาดวงจันทร์ แจ่มหน้า
มัตสยาย่อมพัวพัน พิศวาส
ควรฤพรากน้องช้า ชวดเคล้าคลึงชม”
โคลงสี่สุภาพข้างต้นนี้มีลักษณะเด่นอย่างไร
ก. มีสัมผัสอักษรแพรวพราว
ข. มีสัมผัสสระไพเราะ
ค. มีสัมผัสในทั้งสัมผัสสระและอักษร
ง. มีสัมผัสอักษรระหว่างวรรคทุกบาท
เรื่อยเรื่อยมารอนรอน ทิพากรจะตกต่ำ
สนธยาจะใกล้ค่ำ คำนึงหน้าเจ้าตราตรู
เรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง นกบินเฉียงไปทั้งหมู่
ตัวเดียวมาพลัดคู่ เหมือนพี่อยู่ผู้เดียวดาย
เห็นฝูงยูงรำฟ้อน คิดบังอรร่อนรำกราย
สร้อยทองย่องเยื้องชาย เหมือนสายสวาทนาดนวยจร
คำประพันธ์ข้างต้นนี้แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกของกวีเป็นอย่างไร
ก. โศกเศร้า
ข. เงียบเหงา
ค. เดียวดาย
ง. คิดถึงหญิงคนรัก
คำประพันธ์ในข้อ ๕๒ มีความดีในด้านใดมากที่สุด
ก. การเล่นอักษร
ข. บรรยายธรรมชาติ
ค. มีความถูกต้องในด้านฉันทลักษณ์
ง. บรรยายความรู้สึก
ในกาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร มีคำประพันธ์ตอนหนึ่งว่า
“อิ่มทุกข์อิ่มชลนา อิ่มโศกาหน้านองชล” ที่เป็นเช่นนี้เพราะ
ก. เปล่าใจเปลี่ยวเหลียวหานาง
ข. ทุกข์ถึงเจ้าเศร้าเสียดาย
ค. สมสาใจไม่พามา
ง. ไม่วายนึกตรึกตรึงทรวง
“ม่านกรองทองรจนา” คำที่ขีดเส้นใต้หมายความว่าอย่างไร
ก. ผ้าไหมทำเป็นม่านมีลวดลายทอง
ข. ผ้าม่านถักด้วยลวดทองทำเป็นลาย
ค. ม่านผ้าโปร่งถักเป็นลายด้วยไหมทอง
ง. ผ้าโปร่งถักด้วยไหมแล้วกรองด้วยไหมทองเป็นลาย
“ประยงค์ทรงพวงห้อย ระย้าย้อยห้อยพวงกรอง
เหมือนอุบะนวลละออง เจ้าแขวนไว้ให้เรียมชม” ข้อความที่ขีดเส้นใต้หมายความว่าอย่างไร
ก. เหมือนอุบะห้อยอยู่ที่พระแกล
ข. เหมือนอุบะห้อยอยู่ที่หูของน้อง
ค. เหมือนอุบะห้อยอยู่ที่ต้นประยงค์
ง. เหมือนอุบะห้อยอยู่ที่แท่นบรรทม
จงพิจารณาว่าจากโคลงที่กำหนดให้นี้ ข้อใดเป็นการสรุปความรู้สึกที่เด่นชัดของกวี
“รอนรอนสุริยะโอ้ อัสดง
เรื่อยเรื่อยลับเมรุลง ค่ำแล้ว
รอนรอนจิตจำนง นุชพี่ เพียงแม่
เรื่อยเรื่อยเรียมคอยแก้ว คลับคล้ายเรียมเหลียว
ก. คะนึงหา
ข. รักแล้วรอหน่อย
ค. ทำไมถึงต้องเป็นเรา
ง. มีรักเหมือนมีทุกข์ล้นปรี่
“แต่เช้าเท่าถึงเย็น กล้ำกลืนเข็ญเป็นอาจิณ
ชายใดในแผ่นดิน ไม่เหมือนพี่ที่ตรอมใจ” ข้อความนี้มีเนื้อความสอดคล้องกับข้อใดมากที่สุด
ก. จากเช้าเท่าถึงเย็น แสนลำเค็ญนิรันดร
กายใจให้รุ่มร้อน ห่วงอาวรณ์ทอดถอนใจ
ข. เย็นเช้าพี่เฝ้าคิด ทั้งกายจิตคิดหวั่นไหว
บุรุษในแดนใด ไม่อ้างว้างเท่าพี่นี้
ค. ขุนแผนแม้นขุนช้าง ไม่อ้างว้างเท่าตัวพี่
อิเหนาพระอภัยมณี ไม่เทียบพี่ที่ตรอมใจ
ง. อรุณรุ่งจุ่งสนธยา พี่สุดว้าเหว่ดวงใจ
ชายอื่นแม้แดนไหน จะโศกเท่าเราไม่มี
ข้อใดไม่แสดงอาการเคลื่อนไหว
ก. จำปาหนาแน่นเนื่อง คลี่กลีบเหลืองเรืองอร่าม
ข. ไม่เท่าเจ้าโฉมฉาย ห่มตาดพรายกรายกรมา
ค. ประยงค์ทรงพวงห้อย ระย้าย้อยห้อยพวงกรอง
ง. มะลิวัลย์พันจิกจวง ดอกเป็นพวงร่วงเรณู
ข้อใดใช้ภาพพจน์
ก. แขกเต้าเคล้าคู่เคียง เรียงจับไม้ไซ้ปีกหาง
เรียมคะนึงถึงเอวบาง เคยแนบข้างร้างแรมนาน
ข. ปักษีมีหลายพรรณ บ้างชมกันขันเพรียกไพร
ยิ่งฟังวังเวงใจ ล้วนหลายหลากมากภาษา
ค. ลมชวยรวยกลิ่นน้อง หมอเรื่อยต้องคลองนาสา
เคลือบเคล้นเห็นคล้ายมา เหลียวหาเจ้าเปล่าวังเวง
ง. พิกุลบุนนาคบาน กลิ่นหอมหวานซ่านขจร
แม้นนุชสุดสายสมร เห็นจะวอนอ้อนพี่ชาย
Explore all questions with a free account