No student devices needed. Know more
50 questions
๑.พระมหาอุปราชของพระเจ้าหงสาวดีองค์ใดที่มารุกรานไทยและต้องพ่ายแพ้ถึงแก่พระชนม์
ก.พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง
ข.พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง
ค.พระเจ้าหงสาวดีมังนอทาสอ
ง.พระเจ้าหงสาวดีตะเบงชะเวตี้
๒.ลิลิตประกอบด้วยคำประพันธ์ชนิดใด
ก.โคลง ร่าย
ข.โคลง ฉันท์
ค.ฉันท์ กาพย์
ง.กาพย์ กลอน
๓.บทประพันธ์ข้อใดกล่าวสดุดีสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ก.เสร็จแสดงพระยศเจ้า จอมอยุธ- ยาเอย องค์อดิศรสมมุติ เทพไท้ นเรศวรรัตนมงกุฎ เกศกษัตริย์ สยามฤา หวังอยู่คู่ธเรศไว้ ฟากฟ้าดินเฉลิม
ข.บรรยายกลกาพย์แสร้ง สมญา ไว้แฮ สมลักษณ์เล่ห์เสาวนา เรื่องรู้ “ตะเลงพ่าย”เพื่อตะเลง ปรา-ชเยศ พระเอย เสนอฤทธิ์สองราชสู้ ศึกช้างกลางสมร
ค.ล่วงถึงบพิตรผู้ เถลิงถวัลย์- ราชย์ฤา คือพุทธบรรษัทสรรพ์ สืบสร้าง เชิญงดอดอวยทัณฑ์ ทวยโทษ นี้นา เลยอย่าลาญชีพล้าง หนึ่งครั้งขอเผือ
ง.กรมหมื่นนุชิต เชื้อ กวีวร ชิโนรส มิ่งมหิศร เสกให้ ศรีสุคต พจนสุนทร เถลิงลักษณ์ นี้นา ขัตติยวงศ์ ผจงโอษฐ์ไว้ สืบหล้าอย่าศูนย์
๔.“จำใจจรจากสร้อย อยู่แม่อย่าละห้อย ห่อนช้าคืนสม แม่แล” บทประพันธ์นี้ใครกล่าวถึงใคร
ก.พระมหาอุปราชากล่าวถึงพระสนม
ข.สมเด็จพระเอกาทศรถกล่าวถึงพระสนม
ค.พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงกล่าวถึงพระมเหสี
ง.สมเด็จพระนเรศมหาราชกล่าวถึงพระมารดา
๕.เรื่องลิลิตตะเลงพ่ายเป็นผลงานการประพันธ์ของผู้ใด
ก.เจ้าพระยาพระคลัง (หน)
ข.พระยาพิศณุประสาทเวช
ค.พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ง.สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
๖.คำเชิญชวนให้กระทำยุทธหัตถีที่สมเด็จพระนเรศวรฯ ตรัสกับพระมหาอุปราชาที่ว่า
หัสดีรณเรศอ้างอวสาร นี้นา
นับอนาคตกาล ห่อนพ้อง
ขัตติยายุทธ์บรรหาร คชคู่ กันแฮ
คงแต่เผือพี่น้อง ตราบฟ้าดินกษัย
เป็นการกล่าวในทำนองใด
ก.ท้าท้าย
ข.พยาการณ์
ค.รู้การณ์ไกล
ง.ชักจูงโดยโวหาร
๖.ข้อใดสะท้อนอัจฉริยภาพด้านการศึกสงครามครั้งนี้ของสมเด็จพระนเรศวรฯ ได้เด่นชัดที่สุด
ก.ความรอบคอบในการจัดทีม
ข.ความรอบรู้ในยุทธวิธีการศึก
ค.ความรับผิดชอบในการสงคราม
ง.ความเข้าใจลักษณะของผู้นำแม่ทัพ
๘.ข้อใดตีความผิด
ก.ยลแต่เหย้าเรือนร้างอยู่ไร้ใครแรม ตีความว่า เห็นแต่บ้านเรือนที่ร้างเพราะไม่มีคนอาศัยอยู่
ข.มาเดียวเปลี่ยนอกอ้าอายสู ตีความว่า เมื่อเรามาคนเดียวไม่มีคู่ก็รู้สึกเปลี่ยวใจและอายคนอื่นที่มีคู่
ค.แสนเศิกห่อนหาญราญ รอฤทธิ์ พระฤๅ ตีความว่า ข้าศึกยกทัพมานับแสนก็ไม่กล้าออกไปสู้ศึกเพราะต้องการอยู่รอพระองค์มาแสดงฤทธิ์
ง.สละสละสมร เสมอชื่อไม้นา ตีความว่า การที่พี่จากน้องมานั้นเหมือนกับชื่อต้นสละที่มองเห็นอยู่ตรงหน้า
๙.ข้อความใดหมายถึงการทำยุทธหัตถี
ก.คชยานขัตติเยศเบื้อง ออกถวัลย์
ข.หัสดีรณเรศอ้างอวสาน นี้นา
ค.เถลิงฉัตรจัตุรพิรีย์เรียงคั่ง ขูเฮย
ง.หัสดินปิ่นธเรศไท้ โททรง
๑๐.อ่านโคลงต่อไปนี้
นฤบดีโถมถีบสู้ ศึกธาร
ฟอนฟาดสุงสุมาร มอดม้วย
สายสินธุ์ซึ่งนองพนานต์หายเหือด แห้งแฮ
พระเร่งปรีดาด้วย เผด็จเสี้ยนเศิกกษัย
โคลงลิลิตตะเลงพ่ายนี้กล่างถึงเรื่องใด เรื่องนั้นมีความสำคัญอย่างไร
ก.นิมิตบอกเหตุ - ความมีชัยต่อศัตรู
ข.การปราบจระเข้ - ความพ่ายแพ้ของข้าศึก
ค.น้ำป่าหลากท่วมทับข้าศึก - การไม่ต้องเสียกำลังรบ
ง.การต่อสู้ดุเดือดของสมเด็จพระนเรศวรฯ - พระมหาอุปราชาขาดคอช้าง
๑๑.เรื่อง “มัทนะพาธา” เป็นงานเขียนชนิดใด
ก.บทละคร
ข.บทละครรํา
ค.บทละครร้อง
ง.บทละครพูด
๑๒.เรื่อง “มัทนะพาธา” เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอะไร
ก.ตํานานแห่งความรัก
ข.ตํานานแห่งความผิดหวัง
ค.ตํานานแห่งดอกกุหลาบ
ง.ตํานานแห่งดอกไม้
๑๓.ใครเป็นผู้สาปมัทนา
ก.เทพบุตร
ข.วิทยาธร
ค.เทพบุตรสุเทษณ์
ง.วิทยาธรมายาวิน
๑๔.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องในเรื่องมัทนะพาธา
ก.สร้างตัวละครสอดคล้องกับเนื้อเรื่อง
ข.ตอนที่ต้องการเน้นอารมณ์มักใช้กาพย์
ค.มีบทเจรจาร้อยแก้วในส่วนของตัวละครที่ไม่สำคั
ง.เนื้อเรื่องบางตอนตัดตอนมาจากวรรณคดีสันสกฤต
๑๕.คำประพันธ์ในข้อใดมีน้ำเสียงแตกต่างจากข้ออื่น
ก. รูปเจ้าวิไลราว สุระแสร้งประจิตประจักษ์
มิควรจะร้างรัก เพราะพะธูพิถีพิถัน
ข.รับรักและยินยอม ดนุรักสมัครสมาน
หากนางมิข้องขัด ประดิพัทธ์ประสมประสาน
ค.อ้าฟังดนูเถิด มะทะนาและตอบวจี
พอให้ดนูนี้ สุขะรื่นระเริงระรวย
ง.ดนุถามก็เจ้าไซร้ บมิตอบณคำถาม
วนิดาพยายาม กะละเล่นสำนวนหวน
๑๖.จากบทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา ข้อใดไม่ได้สะท้อนให้เห็นภาพผู้หญิงในยุคนั้น
ก.ผู้หญิงมีสิทธิเสรีภาพที่จะไม่รับรักชายที่ตนไม่รัก
ข.ผู้หญิงที่ไปหาผู้ชายก่อนเป็นเรื่องน่าอาย
ค.ผู้ชายมีอำนาจเหนือผู้หญิง
ง.ผู้หญิงงามเป็นที่หมายปองของผู้ชาย
๑๗.ข้อใดเป็นการอธิบาย
ก.นางมาแล้วไซร้ แต่ว่าฉันใดจึ่งไม่พูดจา
ข.สุเทษณ์จ้องดูนาง แต่นางยังคงตาลอยไม่จับตาอยู่
ค.จงเคลื่อนคลายฤทธิ์ จากจิตกัญญา
คลายคลายอย่าช้า สวัสดีสวาหาย!
ง.อันกุพชะกาหอม บริโภคอร่อยเพลิน
รสหวานสิหวานเชิญ นรลิ้มเพราะเลิศรส
๑๘.ท้าวชัยเสนสั่งประหารชีวิตมัทนาจริงหรือไม่ เพราะเหตุใด
ก.จริง เพราะหลงเชื่อว่านางมัทนาไปรัก กับศุภางค์ทหารเอกของท้าวชัยเสน
ข.จริง เพราะนางจัณฑีมเหสีของท้าวชัยเสน ถูกมัทนาทำร้ายร่างกาย
ค.ไม่จริง เพราะท้าวชัยเสนมีใจเสน่หาต่อ มัทนามากถึงขั้นได้สาบานรักต่อกันแล้ว
ง.ไม่จริง เพราะมัทนาไม่มีความผิดเพียงแต่ถูกใส่ร้ายจากพระนางจันฑี มเหสีของท้าวชัยเสนด้วยความหึงหวงเท่านั้น
๑๙.ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ลักษณะนิสัยของมัทนา
ก.รักษาสัจจะ
ข.มีความจงรักภักดี
ค.มีความอุตสาหะ
ง.ยอมรับผลแห่งการตัดสินใจ
๒๐.ข้อใดไม่ใช่คุณสมบัติของดอกกุหลาบ
ก.ดอกใหญ่และเกสร สุวคนธะมากมาย
อยู่ทนบวางวาย มธุรสขจรไกล
ข.ไม้เรียกผกากุพ- ชะกะสีอรุณแสง
ปานแก้มแฉล้มแดง ดรุณีณยามอาย
ค.อีกทั้งสะพรั่งหนาม ดุจะเข็มประดับไว้
ผึ้งเขียวสิบินไขว่ บ มิใคร่จะห่างเหิน
ง.เข้าใจละเจ้าข้า ผิวะองค์สุเทษณ์นั้น
ตรัสมาดิฉันพลัน จะเฉลยพระวาที
๒๑.เรื่องโคลนติดล้อ รัชกาลที่ ๖ มิได้ทรงเปรียบเทียบข้อใด
ก.ประเทศชาติ : ล้อรถ
ข.โคลน : ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ
ค.ชาวไร่ชาวนา : กระดูกสันหลังของชาติ
ง.เสมียน : ข้าราชการ
๒๒.จากรูป รัชการที่ ๖ ทรงเปรียบเทียบกับสิ่งใด
ก.ปัญหาและอุปสรรค
ข.ความเจริญ
ค.ประเทศชาติ
ง.วัฒนธรรม
๒๓.บทความเรื่อง โคลนติดล้อ ได้รับการตีพิมพ์ในสื่อประเภทใด
ก.วารสาร
ข.นิตยสาร
ค.บทความวิชาการ
ง.หนังสือพิมพ์
๒๔.ข้อใดแสดงกระบวนการฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ
ก.ได้ยิน ได้เห็น
ข.ได้ยิน ได้เห็น ได้สัมผัส
ค.ได้ยิน ได้เห็น ได้สัมผัส ได้รับรู้
ง.ได้ฟัง ได้เห็น ได้วิเคราะห์ ใคร่ครวญ ได้ประเมินค่าเพื่อนำไปใช้
๒๕.บุคคลใดแสดงมารยาทในการฟังและดูที่เหมาะสม
ก. สุพจน์ยกมือขึ้นถามผู้บรรยายทันทีที่สงสัย
ข. สุนีย์จดข้อสงสัยไว้ในสมุด รอจนกว่าผู้บรรยายจะเปิดโอกาสให้ซักถาม
ค. สุนันท์ถามในสิ่งที่สงสัยกับเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ เพราะไม่กล้าถามผู้บรรยาย
ง. สุมาลีลุกออกจากที่ประชุมเมื่อผู้พูดบรรยายเสร็จ โดยไม่อยู่ฟังช่วงการซักถาม
ตอบคำถามจากรูปภาพ เรื่อง การแสดงทรรศนะ โต้แย้ง โน้มน้าว
ข้อ ๑
ข้อ ๒
ข้อ ๓
ข้อ ๔
ข้อ ๕
๒๗.ตอบคำถามจากรูปภาพต่อไปนี้ เรื่อง การแสดงทรรศนะ โต้แย้ง โน้มน้าว
ข้อ ๑
ข้อ ๒
ข้อ ๓
ข้อ ๔
ข้อ ๕
๒๘.ข้อใดใช้ภาษาโน้มน้าวใจน้อยที่สุด
ก.ยีนส์ฟอกของแท้จากอเมริกามาถึงแล้ว
ข.รับซื้อรถเก๋ง กระบะ ตู้ ในราคาสูงด้วยเงินสด
ค.ที่นี่รับเช่าพระเครื่อง พระบูชาทุกรุ่น ทั้งเก่าและใหม่
ง.ขายรถสปอร์ตรุ่นล่าสุด สภาพสวยหรู ราคาเป็นกันเอง
๒๙.ข้อความต่อไปนี้เป็นการแสดงทรรศนะประเภทใด
"สังคมไทยยังคงเป็นสังคมเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ ขณะเดียวกันก็เกิดสังคมอุตสาหกรรม สังคมเมือง และกำลังจะกระโดดข้ามไปเป็นสังคมเทคโนโลยี สังคมไทยจึงมิได้ข้ามผ่าน แต่อยู่ในสังคม 3 ยุค
ในช่วงเวลาเดียวกัน"
ก.เชิงคุณค่า
ข.เชิงนโยบาย
ค.เชิงข้อเท็จจริง
ง.เชิงข้อเท็จจริงและคุณค่า
๓๐.ข้อใดเป็นประเด็นโต้แย้งในข้อความต่อไปนี้
"หมู่บ้านนี้มีผู้อาศัยเกือบหนึ่งพันครอบครัว แต่ไม่มีสถานะที่ที่ชาวบ้านจะพักผ่อนหย่อนใจได้เลย บริเวณนี้เป็นที่ว่างแห่งเดียวที่เหลืออยู่ การสร้างอาคารพาณิชย์ในบริเวณนี้จึงเป็นการกระทำที่ไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมแม้แต่น้อย"
ก.หมู่บ้านนี้ควรสร้างอาคารพาณิชย์หรือไม่
ข.ชาวบ้านมีที่พักผ่อนหย่อนใจเพียงพอหรือไม่
ค.ควรสร้างอาคารพาณิชย์ในบริเวณที่เหลืออยู่หรือไม่
ง.ผลประโยชน์ทางธุรกิจสำคัญกว่าผลประโยชน์ของชุมชนหรือไม่
๓๑.คำพูดในข้อใดไม่แสดงการวิเคราะห์วิจารณ์
ก.ฉันว่า ดูหนังเรื่องโหมโรงจบแล้วทำให้รักดนตรีไทยขึ้นแยะเลย
ข.ดูละครสะดุดรักเมื่อคืน สงสารพระเอก ใครมีแม่ที่คอยบงการอย่างนี้น่าอนาถ
ค.สารคดีชีวิตสัตว์ป่าทำให้ได้ข้อคิดจริง ๆ ชีวิตใครใครก็รัก เราท่านประจักษ์กันหรือไม่
ง.ข่าวโทรทัศน์ทุกช่องเมื่อคืนตรงกันหมด เป็นข่าวรถขนระเบิดสภาพเตรียมพร้อม
๓๒.ข้อใดไม่ได้มีความหมายโดยนัย
ก.เด็ก ๆ ใช้มือขวาเขียนหนังสือ
ข.มือขวาของสมศักดิ์มีแผลเป็นบนหลังมือ
ค.คนส่วนมากใช้มือขวาทำงานที่สำคัญเสมอ
ง.ผู้อำนวยการใช้มือขวาของเขาทำงานชิ้นนี้
เอาน้ำลูบท้อง ตรงก้บ ความหมายในข้อใด
ก.สู้หลังชนฝา
ข.สู้ทนหิวในยามยาก
ค.อดอยากยากแค้น
ง.หยิ่งในศกัด์ิศร
๓๔.คำในข้อใดต้องอาศัยการตีความ
ก.พี่พูดจนคออักเสบ
ข.แม่ชอบใส่เสื้อคอกระเช้า
ค.ลุงเป็นพวกคอทองแดง
ง.น้องชอบเอาน้าเย็นลูบหน้า
๓๕.การแปลความเป็นพื้นฐานของเรื่องใด
ก.การตีความ
ข.การวิจารณ์
ค.การโต้แย้ง
ง.การถ่ายทอดความ
๓๖.ข้อใดไม่ใช่การแปลความหมาย
ก.การแปลศัพท์
ข.การแปลค าภาษาบาลี-สันสกฤต
ค.การแปลความคิด
ง.การแปลเครื่องหมาย
อ่านข้อความที่กำหนดให้แล้วตอบคำถาม
“ชาวนาผู้ยากจนคนหนึ่งนำเห็ดโคนไปให้ราชาที่ดินโดยไม่คิดค่าอะไร ราชาที่ดินคิดว่า เรามีเงินมากมายแต่ก็ไม่เคยให้อะไรใครกิน ชาวนาคนนี้เขามีน้ำใจงาม ต่อไปเราคงหาทางให้คนมากขึ้น”
๓๗.การกระทำของชาวนาทำให้ราชาที่ดินเป็นอย่างไร
ก.เห็นแก่ตัวมากขึ้น
ข.ได้ข้อคิดที่ดีๆ
ค.รู้น้ำใจของชาวนา
ง.ไม่อยากรับของคนจน
จ.มีอคติต่อชาวน
อ่านข้อความที่กำหนดให้แล้วตอบคำถาม
“ชาวนาผู้ยากจนคนหนึ่งนำเห็ดโคนไปให้ราชาที่ดินโดยไม่คิดค่าอะไร ราชาที่ดินคิดว่า เรามีเงินมากมายแต่ก็ไม่เคยให้อะไรใครกิน ชาวนาคนนี้เขามีน้ำใจงาม ต่อไปเราคงหาทางให้คนมากขึ้น”
๓๘.คำว่า “ราชาที่ดิน” มีความหมายตรงกับข้อใด
ก.พระราชาเป็นเจ้าของที่ดิน
ข.พระราชาเป็นผู้มอบที่ดินให้
ค.คนที่มีที่ดินมากมาย
ง.ผู้ที่ให้ชาวนาเช่าที่ดิน
จ.พระราชาที่บริจาคที่ดิน
อ่านข้อความที่กำหนดให้แล้วตอบคำถาม
“ชาวนาผู้ยากจนคนหนึ่งนำเห็ดโคนไปให้ราชาที่ดินโดยไม่คิดค่าอะไร ราชาที่ดินคิดว่า เรามีเงินมากมายแต่ก็ไม่เคยให้อะไรใครกิน ชาวนาคนนี้เขามีน้ำใจงาม ต่อไปเราคงหาทางให้คนมากขึ้น”
๓๙.การกระทำของชาวนาตรงกับคำพูดข้อใด
ก.น้ำใสใจจริง
ข.น้ำนิ่งไหลลึก
ค.น้ำกลิ้งบนใบบอน
ง.น้ำขึ้นให้รีบตัก
จ. ตักน้ำรดหัวตอ
๔๐.การอ่านสารชนิดใด ที่ไม่ควรใช้การอ่านแปลความ
ก. การอ่านบทกวีนิพนธ์
ข. การอ่านตำราวิชาการ
ค. การอ่านป้ายโฆษณาสินค้า
ง. การอ่านข่าวพยากรณ์อากาศ
๔๐.ข้อใดไม่ใช่วิธีการอ่านขยายความ
ก. การกล่าวถึงสาเหตุและผลที่สัมพันธ์กัน
ข. ถ้อยคำที่เขียนจะต้องมีความหมายที่ชัดเจน
ค. การอธิบายสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นเพิ่มเติม
ง. การยกตัวอย่างหรือข้อเท็จจริงมาประกอบเนื้อเรื่องเดิม
๔๒.ข้อใดเป็นภาษาอย่างแคบ
ก.มาลีเลียนภาษาของเจ้าด่าง
ข.ประชาสัมมนากับฝ่ายวิชาการ
ค.นกร้องเสียงดัง
ง.ฉันเห็นป้ายจราจร
๒๓.ข้อใดเป็นวัจนภาษา
ก.ตำรวจจราจรโบกมือห้ามรถ
ข.กรรมการเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน
ค.นักเรียนร้องเพลงประกวดในวันแม่
ง.พ่อแม่มอบดอกกุหลาบแก่กันในวันวาเลนไทน์
๔๔.ข้อใดเป็นอวัจนภาษา
ก. นักเรียนฟังครูอธิบาย
ข. ทุกบ้านมีภาพในหลวงไว้บูชา
ค. คุณพ่อชอบอ่านข่าวหนังสือพิมพ์
ง. คุณยายอวยพรให้หลาน ๆ มีสุขภาพแข็งแรง
๔๕.ข้อใดไม่ได้เกิดจากการกร่อนเสียง
ก.มะพร้าว
ข.มะม่วง
ค.สะดือ
ง.สะสม
๔๖.สัตว์ชนิดใดตั้งชื่อจากการเลียนเสียงธรรมชาติ
ก. นก
ข. เสือ
ค. ตุ๊กแก
ง. ควาย
๔๗.ข้อใดไม่ใช่คำที่มาจากภาษาอังกฤษ
ก.รถจี๊ป
ข.รถตุ๊ก ๆ
ค.รถแบ็คโฮ
ง.รถมอเตอร์ไซค์
๔๘.ข้อใดรียงลำดับหน่วยในภาษาจากเล็กที่สุดถึงใหญ่ที่สุดได้ถูกต้อง
ก.เสียง พยางค์ คำ กลุ่มคำหรือวลี ประโยค
ข.เสียง คำ พยางค์ กลุ่มคำหรือวลี ประโยค
ค.เสียง คำ กลุ่มคำหรือวลี พยางค์ ประโยค
ง.เสียง คำ พยางค์ กลุ่มคำหรือวลี ประโยค
๔๙.ข้อใดแสดงว่าภาษาไทยกำลังมีการเปลี่ยนแปลง
ก."มอง" ภาษาเหนือใช้ "ผ่อ" ภาษาอีสานใช้ "เบิ่ง" และภาษาใต้ใช้ "แล"
ข."เรือน รัก" ในภาษากรุงเทพฯ ออกเสียงเป็น "เฮือน ฮัก" ในภาษาถิ่นเหนือ
ค."ส่งสินค้าออก" ปัจจุบันใช้ว่า "ส่งออกสินค้า"
ง."ดิฉัน" แต่เดิมทั้งผู้หญิงและผู้ชายใช้เป็นสรรพนามแทนตัว
๕๐.ข้อใดเป็นคำอธิบายที่ถูกต้องของข้อความที่ว่า "ห้ามไม่ให้เดินลัดสนาม"
ก.เป็นข้อความที่ใช้กันมาแต่โบราณ
ข.เป็นการใช้ปฏิเสธซ้อนปฏิเสธเพื่อย้ำความ
ค.เป็นข้อความที่มีความหมายในทางบอกเล่า
ง.เป็นข้อความที่ใช้เกณฑ์ทางคณิตศาสตร์มาอธิบาย
Explore all questions with a free account