20 questions
1.การออมที่เก็บรวบรวมไว้ใช้จ่ายตามแผนที่กำหนดนั้น จะต้องปฏิบัติอย่างไร
ก. นำส่งธนาคารตรงตามเวลา
ข. มีการวางแผนอย่างมีขั้นตอน
ค. ผู้ออมจะต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง
ง. กำหนดเป้าหมายในการออมแต่ละเดือน
2. ข้อใดจัดเป็นการลงทุนในหลักทรัพย์
ก. เต้ชวนเพื่อนเปิดร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือ
ข. โตชวนผลิตสินค้าโอทอป (OTOP)
ค. ตั้มลงทุนซื้อคอนโดมิเนียมไว้ขาย
ง. ตาลซื้อพันธบัตรรัฐบาล
3. ข้อความใด ที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของการออมและการลงทุนอย่างเหมาะสม
ก. นำเงินที่มีอยู่ไปฝากธนาคาร เพื่อจะได้ดอกเบี้ย
ข. นำเงินรายได้ทั้งหมดที่มีอยู่ไปลงทุนซื้อขายที่ดิน
ค. เก็บสะสมเงินที่เหลือจากค่าใช้จ่ายนำไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล
ง. เก็บสะสมเงินให้มากที่สุด แล้วนำไปให้ผู้อื่นกู้เพื่อการลงทุนค้าขาย
4. การกระทำข้อใดจัดเป็นการออมระยะยาว
ก. กุ้งออมเงินไว้เป็นค่ารักษาพยาบาลในยามเจ็บป่วย
ข. โก้ออมเงินไว้ใช้จ่ายเมื่อออกจากงานเพราะชรา
ค. แก้วออมเงินไว้เป็นทุนการศึกษาแก่ลูก
ง. เก๋ออมเงินไว้ซื้อบ้าน
5. ถ้านักเรียนมีเงินจำนวนห้าแสนบาท ควรจะตัดสินใจเลือกลงทุนประเภทใดจึงจะมีความปลอดภัยในการลงทุน
ก. ซื้อพันธบัตรรัฐบาล
ข. ซื้อร้านขายดอกไม้
ค.ซื้อที่ดินไว้ขาย
ง. ซื้อหุ้นทุน
6. เพราะเหตุใด ประชาชนส่วนใหญ่นิยมการลงทุนในรูปแบบฝากธนาคาร
ก. ปริมาณเงินฝากของประชาชนส่วนใหญ่มีจำนวนน้อย
ข. เศรษฐกิจของประเทศมีความผันผวน เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ค. ขาดความรู้ความเข้าใจในการลงทุน และไม่กล้าเสี่ยงลงทุนในรูปแบบอื่น
ง. การประชาสัมพันธ์ของธนาคารต่างๆ ไปสู่ประชาชนได้รวดเร็วกว่าธุรกิจการลงทุนแบบอื่น
7. การลงทุนก่อให้เกิดประโยชน์ต่อใครบ้าง
ก. ผู้ออม และนักลงทุน
ข. ผู้ออม นักธุรกิจ ประเทศ
ค. นักธุรกิจ ผู้ผลิต ผู้บริโภค
ง. ประชาชนที่ได้รับปันผลจากการลงทุน
8. การที่นักลงทุนซื้อหุ้นในธุรกิจต่างๆ เพิ่มขึ้นจำนวนมาก สอดคล้องกับข้อความใด
ก. ค่าของเงินเปลี่ยนแปลงไม่มาก
ข. รัฐบาลประกาศเชิญชวนให้นักลงทุนมาลงทุน
ค. ชาวต่างชาติมีความพึงพอใจในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจไทย
ง. การคาดคะเนว่าภาวะเศรษฐกิจในอนาคตจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
9. การบริการเบิกถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) มีผลสำคัญอย่างไร
ก.ประชาชนต้องปรับตนต่อการเปลี่ยนแปลง
ข. การใช้เงินค่อนข้างสะดวกสบาย
ค. การใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย
ง. การออมทรัพย์น้อยลง
10. การกระทำข้อใดสอดคล้องกับความหมายของการออม
ก. ออมนำเงินค่าอาหารกลางวันหย่อนลงในกระปุกออมสิน
ข. เอ๋นำเงินที่เหลือจากค่าใช้จ่ายฝากธนาคาร
ค. เอกฝากธนาคารเดือนละ 500 บาท
ง. อ้นฝากเงินแม่ทุกเดือน
11. ถ้าธนาคารพาณิชย์ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงขึ้นกว่าเดิม จะมีผลดีต่อด้านใด
ก. ประชาชนที่สูงอายุ
ข. การทำธุรกิจ
ค. การลงทุน
ง. การออม
12. ข้อใด ไม่จัด เป็นหลักเกณฑ์สำคัญในการพิจารณา การนำเงินออมไปลงทุน
ก. ความน่าเชื่อถือของผู้บริหารจัดการเงินออม
ข. การเสียภาษีผลตอบแทนจากเงินออม
ค. อัตราดอกเบี้ยหรือปันผลจากเงินออม
ง. ความปลอดภัยของเงินออม
13. เพราะเหตุใด รัฐบาลมักดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
ก. เพื่อลดช่องว่างทางการออมและการลงทุน
ข. เพื่อเพิ่มปริมาณเงินหมุนเวียนในตลาดให้มากขึ้น
ค. เพื่อให้ประชาชนฝากเงินในธนาคารให้มากขึ้น
ง. เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนนำเงินออกไปใช้จ่ายเพื่อให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
14. การที่กลุ่มประชาชนในชนบทตั้งกลุ่มออมทรัพย์ และนำเงินไปลงทุนผลิตสินค้าจำหน่ายนั้น สอดคล้องกับข้อความใด
ก. สร้างผู้นำ สร้างความเจริญเติบโต
ข. สร้างรายได้ สร้างคน
ค. สร้างงาน สร้างอาชีพ
ง. สร้างคน สร้างงาน
15.ข้อใด ไม่จัดว่า เป็นปัญหาสำคัญของการลงทุนในประเทศไทย
ก. ทรัพยากรธรรมชาติกำลังจะหมดไป
ข. ประชากรไทยส่วนใหญ่มีรายได้ต่ำ
ค. ความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจ
ง. ภาคชนบทมีการลงทุนน้อย
16. ถ้ารัฐบาลประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจว่า แนวโน้มขยายตัวเศรษฐกิจโดยรวมดี จะส่งผลในข้อใด
ก. การใช้จ่ายเงินคล่องตัว
ข. การลงทุนและการออมสัมพันธ์กัน
ค. การออมเงินมีจำนวนมากขึ้นกว่าเดิม
ง. ประชาชนใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัว
17. เมื่อมีข่าวสารหรือข้อมูลเกี่ยวกับความไม่สงบในบ้านเมือง จะส่งผลให้นักธุรกิจต่างชาติไม่กล้าลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นั้น สอดคล้องกับข้อความใด
ก. การลงทุนในระยะนั้น อาจก่อให้เกิดปัญหาความไม่คุ้มทุน
ข. ข้อมูลข่าวสารต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
ค. การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มีความไม่มั่นคง
ง. สถาบันการเงินชะลอการให้กู้ยืมเงินมาลงทุน
18. การนำเงินออมไปใช้ในเรื่องใด ที่ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศมากที่สุด
ก. ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล
ข. ฝากธนาคารออมสิน
ค. ซื้อพันธบัตรรัฐบาล
ง. ซื้อรถยนต์
19. ถ้าประชาชนคาดคะเนว่า รัฐบาลจะเพิ่มอัตราภาษีต่างๆ จะส่งผลสำคัญต่อการออมในข้อใดมากที่สุด
ก. ประชาชนจะเก็บเงินออมไว้กับบ้าน
ข. ประชาชนเกิดความสับสน
ค. การออมเพิ่มขึ้น
ง. การออมลดลง
20. ข้อใดจัดเป็นรายได้สุทธิส่วนบุคคล
ก. รายได้ของบุคคลที่เป็นสมาชิกของครอบครัวนำมารวมกัน
ข. รายได้ของบุคคลที่ได้หักภาษีเงินได้ส่วนบุคคลออกแล้ว
ค. รายได้ของบุคคลที่ต้องนำไปคำนวณภาษี
ง. รายได้ของบุคคลตลอดปีหักด้วยรายจ่าย