No student devices needed. Know more
20 questions
๑. ข้อใดเป็นการดำเนินงานตามระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา ตามกฎกระทรวง การประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑
ก. กำหนดมาตรฐานการศึกษา ดำเนินการพัฒนาการศึกษา ประเมินผล และตรวจสอบ ติดตามผลการดำเนินการ รายงานผลการประเมินตนเอง
ข. กำหนดมาตรฐานการศึกษา ทำแผนพัฒนาการศึกษา ดำเนินการตามแผน ประเมินผล และตรวจสอบ ติดตามผลการดำเนินการ รายงานผลการประเมินตนเอง
ค. กำหนดวิสัยทัศน์ และพันธกิจ ทำแผนพัฒนาการศึกษา ดำเนินการตามแผน ประเมินผล และตรวจสอบ ติดตามผลการดำเนินการ รายงานผลการประเมินตนเอง
ง. กำหนดมาตรฐานการศึกษา ทำแผนพัฒนาการศึกษา ดำเนินการตามแผน ประเมินผล และตรวจสอบ รายงานผลการประเมินตนเอง ปรับปรุงพัฒนาคุณภาพการศึกษา
๒. ข้อใดไม่ใช่บทบาทหน้าที่ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในการดำเนินงานตามระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา ตามกฎกระทรวง การประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑1
ก. กำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา
ข. จัดส่งรายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษาให้ สมศ.
ค. ติดตามผลการดำเนินงานการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา
ง. ให้คำปรึกษา ช่วยเหลือและแนะนำสถานศึกษาในการพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา
๓. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ “มาตรฐานการศึกษา”
ก. เป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ และคุณภาพที่พึงประสงค์
ข. เป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณภาพที่ต้องการให้เกิดขึ้นในสถานศึกษา
ค.ใช้เป็นหลักเทียบเคียงในการส่งเสริม กำกับดูแล ตรวจสอบ ประเมินผล และประกันคุณภาพการศึกษา
ง. ถูกทุกข้อ
๔. ข้อใดไม่ใช่มาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๑
ก. คุณภาพของเด็ก
ข. กระบวนการบริหาร และการจัดการ
ค. ระบบการประกันคุณภาพภายในที่มีประสิทธิผล
ง. กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ
๕. "มีหลักสูตรครอบคลุมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น” เป็นประเด็นการพิจารณามาตรฐานการศึกษาระดับใด
ก. ระดับปฐมวัย
ข. ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ค. ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ
ง. ทั้งข้อ ข และ ค
๖. ข้อใดเป็นข้อดีของการประเมินแบบองค์รวม
ก. ประเมินประเด็นย่อย
ข. ให้คะแนนสิ่งที่ประเมินแบบกว้าง
ค. ประเมินผลงานโดยใช้มิติ / เกณฑ์หลายด้าน
ง. ให้ความสำคัญกับการประเมินแต่ละประเด็น
๗. ข้อใดไม่ใช่เป็นลักษณะของการประเมินแบบองค์รวม
ก. ส่วนย่อยจะถูกประเมินรวมไปด้วยกัน
ข. ต้องใช้ผู้ประเมินที่เชี่ยวชาญรอบด้าน
ค. ให้คะแนนแบบแยกส่วนของแต่ละองค์ประกอบ
ง. อยู่บนพื้นฐานของร่องรอยหลักฐานที่มีอยู่แล้ว
๘. ข้อใดเป็นโมเดลพิชญพิจารณ์
ก. evaluation model
ข. development model
ค. collaborative model
ง. ถูกทุกข้อ
๙. ข้อใดไม่ใช่เกณฑ์การคัดเลือกผู้เชี่ยวชาญในการประเมิน
ก. มีตำแหน่งทางวิชาการ
ข. ผู้ที่มีความเป็นกัลยาณมิตร
ค. มีผลงานวิชาการที่เป็นที่ยอมรับ
ง. ผู้ที่ไม่มีส่วนร่วมในกระบวนการดำเนินงาน
๑๐. ข้อใดจัดเป็นหลักฐานที่มีความเชื่อถือในระดับสูง
ก. ข้อมูลจากการบอกเล่า
ข. ผลการวิจัยที่ทำเฉพาะกลุ่ม
ค. ข้อมูลจากประสบการณ์ส่วนตัว
ง. ข้อมูลจากการตรวจสอบแบบสามเส้า
๑๑. ข้อใดไม่ใช่บทบาทหน้าที่ของผู้ประเมินคุณภาพสถานศึกษา
ก. ประสานกำหนดการตรวจเยี่ยมสถานศึกษาร่วมกับคณะผู้ประเมิน และผู้บริหารสถานศึกษา
ข. ศึกษาทำความเข้าใจรายงานประจำปี (SAR) ของสถานศึกษาในระหว่างการประเมิน
ค. แจ้งผลการประเมินอย่างไม่เป็นทางการด้วยวาจาต่อสถานศึกษา
ง. ร่วมรับผิดชอบผลการประเมิน และรายงานการประเมิน
๑๒. บุคคลในข้อใดเหมาะสมที่จะทำหน้าที่ผู้ประเมินคุณภาพสถานศึกษามากที่สุด
ก. สมชายรายงานสิ่งที่ค้นพบตามความเป็นจริงอย่างชัดเจน โดยไม่ปกปิดข้อมูลใด ๆ
ข. สมศักดิ์นำข้อมูลของสถานศึกษาที่ตนเองประเมินไปเผยแพร่เพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่สถานศึกษาอื่น
ค. สมศรีพาศึกษานิเทศก์ที่ตนเองรู้จักเข้าร่วมเป็นคณะผู้ประเมินเพื่อเรียนรู้ระบบการประเมินแนวใหม่
ง. สมเกียรติรับของที่ระลึกที่สถานศึกษามอบให้เพื่อเป็นการรักษาน้ำใจ
๑๓. ข้อมูลเชิงคุณภาพของผู้ประเมินคนใดที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุดในประเด็นการสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการสอนในชั้นเรียนของครูชญานี
ก. ผู้ประเมิน A นำข้อมูลการสัมภาษณ์ของครูชญานีในครั้งแรกมาวิเคราะห์ตามประเด็นที่กำหนดไว้
ข. ผู้ประเมิน B ใช้ข้อมูลที่เก็บได้หลังจากที่ทำความสนิมสนมคุ้นเคยกับครูชญานีแล้ว
ค. ผู้ประเมิน C สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเพื่อนครูต่อหน้าครูชญานี
ง. ผู้ประเมิน D ฟังข้อมูลจากเพื่อนของครูชญานีอีกครั้งหนึ่งเพราะกลัวครูชญานีไม่พูดความจริง
14. จากข้อมูลต่อไปนี้สะท้อนถึงคุณลักษณะของนักเรียนในเรื่องใดน้อยที่สุด
“ไม่ต้องกลัวหรอก ไม่มีลิขวิดก็เอาปากกาขีด ๆ ไปก่อน เดี๋ยวส่งไม่ทันก็โดนหักคะแนนหรอก”
“เดี๋ยวมานะ เดี๋ยวไปยืมหนังสือวิทยาศาสตร์ของเพื่อนอีกห้องก่อน เดี๋ยวไม่ทันครูมา”
ก. การแก้ปัญหา
ข. การตัดสินใจ
ค. การจัดการกับความเครียด
ง. ความคิดสร้างสรรค์
๑๕. จากข้อมูลที่กำหนดให้ ครูคนใดมีปัญหาด้านการทำสื่อประกอบการเรียนการสอนแตกต่างจากผู้อื่นในด้านความสามารถส่วนบุคคล
ครูเอกพล : ผมว่าบางทีก็เสียเวลานะครับ ใช้เวลาทำค่อนข้างนาน เสียเงินด้วย ทำให้เตรียมการสอนไม่ทันอีกต่างหาก
ครูอมรเทพ : เปลืองเงินมากเลยครับ กาว กระดาษ พอซื้อรวมกันหลาย ๆ อย่างก็แพงแล้วครับ
ครูวิภาวี : ไม่ค่อยถนัดวาดรูป หัวครีเอตไม่ค่อยมีเลยค่ะ ไม่ศิลป์เลย ต้องให้เพื่อนช่วยทำทุกทีเลย
ครูอรวรรณ : ต้องนอนดึก ๆ ทุกทีเลยครับ นั่งตัดกระดาษทำสื่อการสอน เพราะกว่าจะเขียนแผนเสร็จก็ค่ำซะแล้ว ทำวันต่อวันเลยครับ
ก. เอกพล
ข. อมรเทพ
ค. วิภาวี
ง. อรวรรณ
๑๖. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการจัดทำรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา : SAR
ก. ต้องตอบโจทย์ความสำเร็จของสถานศึกษาในการจัดการศึกษาเมื่อครบ ๑ ปีการศึกษา
ข. สะท้อนข้อมูลว่าเป้าหมายที่สถานศึกษาตั้งไว้คืออะไร บรรลุผลสำเร็จในระดับใด
ค. รายงานด้วยข้อมูลเชิงประจักษ์ว่าสถานศึกษาดำเนินการอย่างไรจึงบรรลุผลตามเป้าหมายระดับนั้น
ง. ไม่มีข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
๑๘. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. รูปแบบการเขียนรายงานการประเมินตนเองไม่มีการกำหนดรูปแบบที่ตายตัว
ข. ผู้ประเมินต้องศึกษากรอบการประเมินให้เข้าใจอย่างชัดเจน และวางแผนการเก็บข้อมูลล่วงหน้า
ค. การประเมินภายในให้ความสำคัญกับประเด็นพิจารณาโดยประเมิน และตัดสินทีละประเด็นที่กำหนด
ง. การประเมินแบบองค์รวมเป็นการประเมินผลงานหรือกระบวนการปฏิบัติงานที่มีความเชื่อมโยง และบูรณาการ
๑๘. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการศึกษา เก็บรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ในการประเมินคุณภาพการศึกษา
ก. ผู้ประเมินควรเก็บข้อมูลอย่างระมัดระวัง และควรมีการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเอกสารหรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ
ข. ผู้ประเมินควรศึกษาข้อมูลอย่างมีวิจารณญาณ และมีการเปรียบเทียบข้อมูลจากแหล่งต่างๆ อย่างตรงไปตรงมา
ค. ผู้ประเมินต้องเลือกวิธีการเก็บข้อมูลว่าจะใช้วิธีใดในแต่ละประเด็นพิจารณา ถึงจะได้คำตอบที่ตรงประเด็น และน่าเชื่อถือที่สุด
ง. ผู้ประเมินต้องทำความเข้าใจวัตถุประสงค์การประเมิน และคำจำกัดความในการประเมิน โดยแยกส่วนการประเมินแต่ละประเด็นออกจากกันให้ชัดเจนเพื่อความเป็นเอกเทศของการเก็บข้อมูลในแต่ละประเด็น
๑๙. ข้อใดสำคัญที่สุดของการให้ข้อมูลย้อนกลับ
ก. เนื้อหา และสาระ
ข. น้ำเสียง และลีลา
ค. สถานการณ์ และช่วงเวลา
ง. บทบาท และเกณฑ์เปรียบเทียบ
๒๐. ผู้ให้ข้อมูลย้อนกลับในข้อใดปฏิบัติไม่เหมาะสม ในการให้ข้อมูลย้อนกลับเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา
ก. พีระวัฒน์ แนะนำสถานศึกษาอย่างตรงประเด็น มีความเฉพาะเจาะจงโดยเลือกที่จะพูดเชิงบวกมากกว่าการตำหนิ
ข. อัมพร วางแผนการให้ข้อมูลย้อนกลับเกี่ยวกับบทพูด และประเด็นที่ต้องการชี้แนะ รวมถึงวิเคราะห์บริบทสถานศึกษาและความเป็นไปได้ในการพัฒนา
ค. วิเชียร ให้ความสำคัญกับการมุ่งประเด็นปัญหาของตัวบุคคลมากกว่ากระบวนการ เพื่อเป็นการแก้ไขจุดบกพร่อง และพัฒนาให้ตรงจุดว่าปัญหาอยู่ที่บุคคลใดในแต่ละประเด็น
ง. จันทร์วิมล ให้ข้อมูลย้อนกลับทันที ณ วันประเมินด้วยวิธีการพูดคุยเหมือนพี่เลี้ยง ชี้แนะ และใช้คำถามกระตุ้นให้บุคลากรในสถานศึกษาร่วมกันคิดวิธีการพัฒนา
Explore all questions with a free account