20 questions
๑. กลอนเพลงยาวขึ้นต้นด้วยวรรคใด
วรรคสดับ
วรรครับ
วรรครอง
วรรคส่ง
๒. จุดมุ่งหมายสำคัญของอิศรญาณภาษิต คือข้อใด
๑. เสียดสีประชดประชันผู้อื่น
๒. ตำหนิพฤติกรรมของผู้ที่กระทำผิดต่อผู้อื่น
๓. บันทึกประวัติศาสตร์ความขัดแย้งของบุคคลในสมัยหนึ่ง
๔. สั่งสอนเตือนใจให้ฉุกคิดก่อนทำสิ่งใด และการปฏิบัติต่อผู้อื่น
๓. “อย่านอนเปล่าเอากระจกยกออกมา ส่องดูหน้าเสียทีหนึ่งแล้วจึงนอน” คำกลอนข้างต้นมีความหมายอย่างไร
๑. สอนให้ดูแลหน้าตาตนเองให้สะอาดสะอ้านงดงามตลอดเวลา
๒. สอนให้รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์แม้เวลาจะนอนก็สามารถดูแลตนเองได้
๓. เปรียบเทียบว่าเราควรสำรวจจิตใจตนเองอยู่เป็นนิจว่าคิดดี ใฝ่ดีอยู่หรือเปล่า
๔. เปรียบเทียบว่าให้สำนึกตนเองอยู่เสมอว่าเกิดในตระกูลสูงหรือต่ำ
๔. “ล้องูเห่าก็ได้ใจกล้ากล้า แต่ว่าอย่ายักเยื้องเข้าเบื้องหาง
ต้องว่องไวในทำนองคล่องท่าทาง ตบหัวผางเดียวม้วนจึงควรล้อ”
คำกลอนข้างต้นเตือนใจเกี่ยวกับเรื่องใด
๑. การล้อเลียนกับสิ่งที่เป็นอันตราย เช่น งูเห่า
๒. ประเมินกำลังของศัตรูโดยเฉพาะผู้ที่มีอำนาจก่อนที่เราคิดจะต่อสู้ด้วย
๓. การวางตัวของผู้น้อยต่อผู้ใหญ่
๔. การประกอบอาชีพที่เป็นอันตราย
๕.“แต่ไม้ไผ่อันหนึ่งตันอันหนึ่งแขวะ สีเหยาะแหยะตอกตะบันเป็นควันฉิว
ช้างถีบอย่าว่าเล่นกระเด็นปลิว แรงหรือหิวชั่งใจดูจะสู้ช้าง”
คำกลอนข้างต้นสอนแง่คิดเรื่องใด
๑. อย่าเย่อหยิ่ง
๒. อย่าประมาท
๓. อย่าอวดดี
๔. อย่าเกียจคร้าน
๖. “สำหรับคนเจือจิตจริตเขลา ด้วยมัวเมาโมห์มากในซากผี
ต้องหาม้ามโนมัยใหญ่ยาวรี สำหรับขี่เป็นม้าอาชาไชย”
คำที่ขีดเส้นใต้เปรียบเทียบแทนสิ่งใด
๑. ข้ารับใช้ที่มีความสามารถ
๒. สัตว์พาหนะที่รู้ใจของเจ้าของ
๓. สามีที่มีความรับผิดชอบครอบครัว
๔. ใจที่รู้เท่าทันกิเลส
๗. “เห็นตอหลักปักขวางหนทางอยู่ พิเคราะห์ดูควรทึ้งแล้วจึงถอนเห็นเต็มตาแล้วอย่าอยากทำปากบอน ตรองเสียก่อนจึงค่อยทำกรรมทั้งมวล” คำกลอนข้างต้นสอนเกี่ยวกับเรื่องใด
๑. ให้รู้จักทำความสะอาดหนทางสัญจรให้เรียบร้อย
๒. ให้กล้าหาญที่จะต่อสู้กับผู้ที่ขัดขวางการทำงาน
๓. ให้พิจารณาว่าควรจะกล่าวหาผู้อื่นโดยไม่มีความผิดหรือไม่
๔. ให้รู้จักคิดใคร่ครวญ ไตร่ตรองก่อนที่จะพูดหรือทำสิ่งใด
๘. “เพชรอย่างดีมีค่าราคายิ่ง ส่งให้ลิงจะรู้ค่าราคาหรือ
ต่อผู้ดีมีปัญญาจึงหารือ ให้เขาลือเสียว่าชายนี้ขายเพชร”
คำกลอนข้างต้นสอนเกี่ยวกับเรื่องใด
๑. การค้าขายเพชรควรขายให้กับผู้มีฐานะพอจะซื้อได้
๒. คนที่มีปัญญาเท่านั้นจึงจะไม่ถูกหลอกลวงนำเพชรราคาต่ำมาขาย
๓. ควรปรึกษา หรือให้ความเห็นที่มีประโยชน์แก่ผู้มีปัญญาเท่านั้น
๔. ควรขายสินค้าที่มีคุณภาพให้กับคนที่มีปัญญา
๙. คำกลอนในข้อใดไม่มีน้ำเสียงประชดประชันผู้มีอำนาจในสังคม
๑. ของสิ่งใดเจ้าว่างามต้องตามเจ้า
๒. เดินตามรอยผู้ใหญ่หมาไม่กัด
๓. ค่อยดำเนินตามไต่ผู้ไปหน้า
๔. พ่อแม่เลี้ยงปิดปกเป็นกกกอ
๑๐. คำในข้อใดมีความหมายว่า ผู้เฒ่าผู้แก่ที่ถือไม้เท้า
๑. ผีเรือน
๒. คนสามขา
๓. ชายข้าวเปลือก
๔. งูเห่า
๑๑. “ค่อยดำเนินตามไต่ผู้ไปหน้า ใจความว่าผู้มีคุณอย่าหุนหวน
เอาหลังตากแดดเป็นนิจคิดคำนวณ รู้ถี่ถ้วนจึงสบายเมื่อปลายมือ”
ข้อความที่พิมพ์ตัวหนา หมายความว่าอย่างไร
๑. เอาแต่นอนไม่ทำงาน
๒. ก้มหน้าทำงานหนัก
๓. ทรมานตนเองต่อไป
๔. ยอมให้ผู้อื่นดูถูก
๑๒. สำนวนไทยในข้อใดไม่ปรากฏในอิศรญาณภาษิต
๑. ฆ่าควายเสียดายพริก
๒. น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า
๓. เดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด
๔. วัวสันหลังหวะ
๑๓. สำนวนไทยในข้อใดไม่ตรงกับคำกลอนในอิศรญาณภาษิต
๑. อย่าเพลิดเพลินคนชังนักคนรักน้อย - คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ
๒. ผีเรือนตัวไม่ดีผีอื่นพลอย - ผีซ้ำด้ำพลอย
๓. ถึงมีปากมีเสียเปล่าเหมือนเต่าหอย - ปากหอยปากปู
๔. จะเรียนคมเรียนเถิดอย่าเปิดฝัก - คมในฝัก
๑๔. คำกล่าวใด สอนเรื่องการพูดจาให้ดีเมื่อต้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น
๑. ถึงเพื่อนฝูงที่ชอบพอขอกันได้
๒. น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าอัชฌาสัย
๓. หญิงเรียกแม่ชายเรียกพ่อยอไว้ใช้
๔. เดินตามรอยผู้ใหญ่หมาไม่กัด
๑๕. คำประพันธ์ข้อใดไม่มีน้ำเสียงเสียดสีประชดประชัน
๑. ชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสารโบราณว่า น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าอัชฌาสัย
๒. ของสิ่งใดเจ้าว่างามต้องตามเจ้า ใครเลยเล่าจะไม่งามตามเสด็จ
๓. เดินตามรอยผู้ใหญ่หมาไม่กัด ไปพูดขัดเขาทำไมขัดใจเขา
๔. วาสนาไม่คู่เคียงเถียงเขายาก ถึงมีปากมีเสียเปล่าเหมือนเต่าหอย
๑๖. คำประพันธ์ข้อใดสอนให้รู้จักประมาณตน
๑. ใจของเราไม่สอนใจใครจะสอน
๒. อย่าให้สูงกว่าฐานนานไปล้ม
๓. อันยศศักดิ์มิใช่เหล้าเมาแต่พอ
๔. ตรองเสียก่อนจึงค่อยทำกรรมทั้งมวล
๑๗. “เอาเสาหินแปดศอกตอกเป็นหลัก ไปมาผลักบ่อยเข้าเสายังไหว”
คำประพันธ์ข้างต้นเปรียบเทียบกับสิ่งใด
๑. ชื่อเสียงเกียรติยศของคนไม่จีรังยั่งยืน
๒. ผู้ที่มีกำลังอำนาจมากย่อมมีโอกาสอ่อนกำลังลงได้
๓. สุขภาพร่างกายของมนุษย์มีวันทรุดโทรม
๔. ใจคนย่อมอ่อนไหวไปตามคำพูดของผู้อื่น
๑๘. “อันเพชรดีมีค่าราคายิ่ง ส่งให้ลิงจะรู้ค่าราคาหรือ”
สำนวนไทยในข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับคำประพันธ์ข้างต้น
๑. วานรได้แก้ว
๒. ไก่ได้พลอย
๓. กิ้งก่าได้ทอง
๔. ใกล้เกลือกินด่าง
๑๙. ข้อใดสอนให้อย่าแสดงอำนาจท้าทายบทลงโทษ
๑. ช้างถีบอย่าว่าเล่นกระเด็นปลิว
๒. ทำอวดเก่งกับชื่อคาว่ากระไร
๓. พริกไทยเม็ดนิดเดียวเคี้ยวยังร้อน
๔. คนสามขามีปัญญาหาไว้ทัก
๒๐. “วาสนาไม่คู่เคียงเถียงเขายาก
ถึงมีปากมีเสียเปล่าเหมือนเต่าหอย”
ข้อความที่พิมพ์ตัวหนา หมายถึงข้อใด
๑. ชอบนินทาเล็กนินทาน้อย
๒. ไม่กล้าพูด
๓. พูดไม่ขึ้นหรือพูดไม่มีใครสนใจ
๔. พูดมาก