20 questions
การงอกของหลอดละอองเรณูไปยังรังไข่ของพืชดอกเกิดจากสิ่งเร้าในข้อใด
1. ความชื้น
2. สารเคมี
3. แรงโน้มถ่วงของโลก
4. ปัจจัยบางอย่างในละอองเรณูเอง
ต้นไมยราบหุบเมื่อโดนสัมผัสเป็นการเคลื่อนไหวของพืชแบบ
1. Geotropism
2. Hydrotropism
3. Chemotropism
4. Thigmotropism
ต้นจามจุรีหุบใบเมื่อตะวันลับขอบฟ้า เป็นการเคลื่อนไหวของพืชแบบใด
1. Phototaxis
2. Phototropism
3. Thigmotropism
4. Nastic movement
เมื่อนำเมล็ดข้าวโพดแช่น้ำ 1 คืน มาเพาะในจานเพาะเชื้อ ดังรูป
1. รากจะงอกออกมาจากส่วนเรดิเคิล และพุ่งไปในทิศทางตรงข้ามกับลำต้นทั้ง 4 เมล็ด
2. รากของทุกเมล็ดจะพุ่งลงข้างล่าง และลำต้นที่เกิดจะพุ่งขึ้นไปข้างบน
3. รากและลำต้นของทุกเมล็ดเจริญเข้าสู่แรงโน้มถ่วงของโลก
4. รากและลำต้นของทุกเมล็ดเจริญไปสู่แหล่งที่ให้แสง
ข้อใดเป็นการเคลื่อนไหวแบบนาสติกของพืช
1. การโค้งตามแสงของดอกทานตะวัน
2. การทิ้งใบของพืชบางชนิด
3. การงอกของละอองเกสรไปยังรังไข่
4. การนอนของใบจามจุรี
การเคลื่อนไหวแบบนาสติก (Nastic movement) เกิดจากการตอบสนองของพืชต่อ
1. แสงหรืออุณหภูมิที่เปลี่ยนไป
2. แรงโน้มถ่วงของโลก
3. ความชื้นหรือสารเคมีบางอย่าง
4. การสัมผัส
ถ้านำพืชมาปลูกในน้ำดังรูป แล้วให้แสงสว่างแก่ต้นและรากเพียงด้านเดียว พืชจะตอบสนองเช่นใด
1. ยอดโน้มเข้าหาแสง รากโน้มออกจากแสง
2. ยอดโน้มเข้าหาแสง รากไม่มีการเปลี่ยนแปลง
3. ยอดและรากโน้มเข้าหาแสง
4. ยอดและรากโน้มออกจากแสง
การเคลื่อนไหวแบบนาสติก ได้แก่ การเคลื่อนไหวในข้อใด
1. การเคลื่อนที่ในทิศทางตรงกันข้ามกับแรงโน้มถ่วงของโลก
2. การหมุนเวียนของใบพืชไปในทิศทางตามเข็มนาฬิกา
3. การพันของลำต้นเกาะติดกับเสาค้ำยัน
4. การหุบและกางของใบผักกระเฉด
การตอบสนองของพืชต่อการสัมผัสเรียกว่า
1. Chemotropism
2. Geotropism
3. Thigmotropism
4. Hydrotropism
การเคลื่อนไหวของยอดตำลึงมีสาเหตุจากสิ่งเร้าชนิดใด
1. แรงดึงดูดของโลก
2. ปริมาณน้ำภายในดิน
3. สิ่งเร้าภายใน
4. อุณหภูมิในอากาศ
พืชที่สามารถเคลื่อนไหวแบบ Contact movement ได้จะต้องมี
1. การสังเคราะห์แสงที่ก้านใบ
2. Osmotic pressure สูงที่ก้านใบ
3. Pulvinus ที่ก้านใบ
4. Turgor pressure สูงที่ก้านใบ
การเคลื่อนไหวของยอดเถาวัลย์มีสาเหตุมาจากสิ่งเร้าชนิดใด
1. แรงดึงดูดของโลก
2. สิ่งเร้าภายใน
3. อุณหภูมิ
4. น้ำ
จากคำกลอนที่ว่า "สายหยุดหยุดกลิ่นฟุ้ง ยามสาย" นักเรียนอธิบายด้วยหลักการวิทยาศาสตร์ได้อย่างไร
1. เกิดจากการทำงานของยีนของพืชชนิดนั้น
2. เป็นการเคลื่อนไหวแบบ Autonomic movement
3. เป็นการเคลื่อนไหวแบบ Stimulus movement
4. เป็นการเคลื่อนไหวแบบ Turgor movement
จากการศึกษาผลของแรงโน้มถ่วงที่มีต่อพืชโดยการควบคุมปริมาณแสง ส่วนใดของพืชที่เราสังเกตได้ว่ายืดตัวได้เร็วมาก
1. 1
2. 2
3. 3
4. 4
Nastic movement กับ tropism มีลักษณะที่แตกต่างกัน คือ
1. สิ่งเร้า
2. ทิศทางของการตอบสนอง
3. สิ่งมีชีวิตที่แสดงการเคลื่อนไหวต่างกัน
4. ข้อ 1, 2 และข้อ 3 ถูก
ปัจจัยที่มีผลต่อการปิด-เปิดของปากใบ คือ
1. ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
2. ปริมาณฮอร์โมน
3. ปริมาณแสง
4. ข้อ 1, 2 และข้อ 3 ถูก
ชื่อที่ไม่เป็นสิ่งเร้าในการเคลื่อนที่ของพืช
1. อุณหภูมิ
2. Gravity
3. Light
4. Oxygen
การเคลื่อนไหว Nutation คือ การเคลื่อนไหวส่วนปลายยอดบิดเกลียวในขณะเจริญเติบโต เนื่องจาก
1. แรงดึงดูดของโลกเป็นสิ่งเร้า
2. อุณหภูมิเป็นสิ่งเร้า
3. สิ่งเร้าอยู่ภายในพืชเอง
4. แสงสว่างเป็นสิ่งเร้า
Tropism หรือ Tropic movement เป็นการเคลื่อนไหวของพืชที่
1. เกิดจากการเจริญเติบโต และมีความสัมพันธ์กับสิ่งเร้า
2. ตอบสนองสิ่งเร้าภายในพืชเอง
3. ตอบสนองสิ่งเร้าภายนอกต้น
4. ตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่ไม่เกี่ยวกับการเจริญเติบโต
การเคลื่อนไหวเพื่อตอบสนองสิ่งเร้าซึ่งเกิดในต้นพืชเองนั้นเรียกว่า
1. Autonomic movement
2. Nastic movement
3. Taxis movement
4. Tropic movement