เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรที่ได้รับชัยชนะ

เพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ของการทำยุทธหัตถี

เพื่อให้เห็นแบบอย่างของการทำสงครามในอดีต

เพื่อแสดงความสามารถในเชิงกวี

บุพนิมิต

จิตนิวรณื

เทพสังหรณ์

ธาตุโขภ

ความอับอายแม่ทัพ

ความมีขัตติยะมานะในหน้าที่

ความหวาดกลัวพระราชอาญา

ความปรารถนาในเกียรติยศ

แต่งกาพย์และโคลงสลับกัน

แต่งกลอนและกาพย์สลับกัน

แต่งกลอนและโคลงสลับกัน

แต่งร่ายกับโคลงสลับกัน

กลอน

ร่าย

โคลง

ฉันท์

การรบบนหลังช้างแบบตัวต่อตัวระหว่างวีรกษัตริย์

การรบบนหลังม้าแบบตัวต่อตัวระหว่างวีรกษัตริย์

การรบแบบตัวต่อตัวของยอดขุนศึก

การท้ารบบนหลังช้างระหว่างกษัตริย์

สมเด็จพระเอกาทศรถกับพระเจ้านันทบุเรง

สมเด็จพระนเรศวรกับพระมหาอุปราชา

สมเด็จพระมหาจักรพรรดิกับพระมหาอุปราชา

สมเด็จพระนเรศวรกับพระมหาอุปราชา

เกรงคชนเรศวร มิบังควรหาญสู้

ห่วงบรรดาสนมนาง จักจืดจางสวาท

องค์ปิตุเรศชรานัก ควรฤาจักไกลห่าง

โหรควรคงทำนาย ทายพระเคราะห์ถึงฆาต

ผลัดแผ่นดินเปลี่ยนราช เยียววิวาทชิงฉัตร

เพื่อกษัตริย์สองสู้ บร้างรู้เหตุผล

ชันหูชูหางแล่น แปร้นแปร๋แลคะไขว่

บาทอย่างใหญ่ดุ่มด่วน ป่วนกิริยาร่าเริง

เพื่อเป็นการบำรุงขวัญทหาร

เพื่อเป็นการบั่นทอนกำลังใจข้าศึก

เพื่อเป็นสาปแช่งคู่ต่อสู้ให้แพ้สงคราม

เพื่อให้ทหารกลัวอำนาจศักดิ์สิทธิ์จะได้กล้ารบ

พระเจ้านันทบุเรง

พระเจ้าบุเรงนอง

พระเจ้าเม็งกะยินโย

พระเจ้าตะเบงชะเวตี้

เสาวรจนี

นารีปราโมทย์

พิโรธวาทัง

สัลลาปังคพิสัย

สี่แสนคน

สองแสนคน

สามแสนคน

สองแสนสี่หมื่นคน

พลายชุมพล

พลายพัทธกอ

เจ้าพระยาไชยานุภาพ

เจ้าพระยาปราบไตรจักร

คอยวางแผนและจัดทัพเมื่อเผชิญหน้ากับข้าศึก

คอยบังคับช้างให้ไปในทิศทางที่ต้องการ

คอยสั่งให้ช้างเดินหน้าและถอยทัพขณะรบกับข้าศึก

ถือแพนหางนกยูงซ้ายขวาโบกเป็นสัญญาณและส่งอาวุธให้แม่ทัพ

ครุฑนาม

สีหนาม

คชนาม

มุสิกนาม