36 questions
R X และ Z เป็นสัญลักษณ์สมมติของธาตุ 3 ชนิด
R มีสัญลักษณ์นิวเคลียร์เป็น 115R อะตอม X มี 10 อิเล็กตรอนและ 10 นิวตรอน
ส่วน Z มีเลขอะตอมมากกว่า X อยู่ 1 และมีนิวตรอนเป็น 2 เท่าของ R
ข้อใดถูกต้อง
Z มีเลขมวล 22
R มี 11 นิวตรอน
X มีสัญลักษณ์นิวเคลียร์ 2010X
จำนวนโปรตอนในอะตอมของ 3 ธาตุนี้รวมกันเท่ากับ 28
เลขมวลของ Z เท่ากับเลขอะตอมของ R
ซีเซียมมีเลขอะตอม 55 และเป็นธาตุหมู่เดียวกันกับโซเดียม ซึ่งมีเลขอะตอม 11 พิจารณาข้อสรุปเกี่ยวกับซีเซียมต่อไปนี้
ก. มีการจัดเรียงอิเล็กตรอนเป็น 2 8 18 18 8 1
ข. ทำปฏิกิริยากับน้ำได้รุนแรงกว่าโซเดียม
ค. มี 55 นิวตรอน
ข้อสรุปใดถูกต้อง
ก
ข
ค
ก และ ข
ข และ ค
2 1
2 8 2
2 8 3
2 8 6
2 8 18 7
ทุกธาตุนำไฟฟ้าได้
D มีความเป้นโลหะมากกว่า E
X เป็นธาตุกึ่งโลหะ จึงนำไฟฟ้าได้น้อย
อะตอม X มีเวเลนซ์อิเล็กตรอนมากที่สุด ส่วนอะตอม A มีมวลน้อยที่สุด
A มีเวเลนซ์อิเล็กตรอนจำนวนมาก จึงมีแนวโน้มจะให้อิเล็กตรอนได้ง่ายเมื่อเกิดสารประกอบ
M เป็นธาตุหมู่ IA
MT เป็นสารประกอบไอออนิก
XZ2 เป็นสารประกอบโคเวเลนต์
จำนวนเวเลนซ์อิเล็กตรอนของ X เท่ากับ 4
จำนวนเวเลนซ์อิเล็กตรอนทั้งหมดที่ X ใช้สร้างพันธะกับ Z เท่ากับ 2 แต่ T เท่ากับ 4
A > B
B > C
C > B
A = B
B = C
พิจารณากราฟที่แสดงความสัมพันธ์ของความเข้มข้นของสารตั้งต้นและผลิตภัณฑ์กับเวลาการเกิดปฏิกิริยาเคมี ดังนี้
ข้อความใดถูกต้อง
ทุกช่วงเวลา อัตราการลดลงของสาร A เท่ากัน
สมการเคมีของปฏิกิริยานี้คือ B + C gA
อัตราการเกิดสาร B มากกว่าอัตราการเกิดสาร C
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเป็นค่าเฉลี่ยของอัตราการเกิดสาร B และสาร C
ในช่วงเวลาเดียวกัน อัตราการลดลงของสาร A เท่ากับอัตราการเพิ่มขึ้นของสาร B
น้ำมันดิบที่ได้จากการขุดเจาะ จะผ่านกระบวนการแยกสารเจือปนต่างๆ แล้วจึงนำส่วนที่เหลือไปแยกต่อในหอกลั่น
พิจารณาข้อความต่อไปนี้
ก. น้ำมันเบนซินมีจำนวนอะตอมคาร์บอนมากกว่าน้ำมันก๊าด
ข. การกลั่นลำดับส่วนเป็นวิธีการที่ใช้แยกสารในหอกลั่นน้ำมันดิบ
ค. สารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่แยกในหอกลั่นเป็นสารโคเวเลนต์เท่านั้น
ง. จุดเดือดของผลิตภัณฑ์จากการกลั่นน้ำมันดิบ จะเพิ่มขึ้นตามความสูงของหอกลั่น
ข้อความใดถูกต้อง
ก และ ข
ข และ ค
ค และ ง
ก และ ค
ข และ ง
พิจารณากิจกรรมต่อไปนี้
ก. การเผาไหม้ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม
ข.การระเหยของตัวทำละลายที่เป็นผลิตภัณฑ์จากการกลั่นน้ำมันดิบที่ใช้ในอุตสาหกรรมเคมี
ค.การใช้พลังงานแสงอาทิตย์แทนพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล
ง.การใช้แก๊สโซฮอล์ อี 85 เป็นเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์แทนน้ำมันเบนซิน
กิจกรรมใดที่ส่งผลกระทบทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
ก และ ง
ข และ ค
ก และ ค
ค และ ง
ข และ ง
ในการทดสอบสมบัติของสาร A B และ C ที่ไม่ได้เติมกรดและหลังเติมกรด ได้ผลดังนี้
ข้อสรุปเกี่ยวกับสาร A B และ C ข้อใดเป็นไปไม่ได้
ร่างกายสามารถนำสาร B ไปใช้ได้โดยตรง
สาร A จัดเป็นพอลิแซ็กคาไรด์ ส่วนสาร C เป็นไดแซ็กคาไรด์
ไคตินที่พบในเปลือกกุ้งหรือกระดองปูจัดเป็นสารกลุ่มเดียวกับสาร A
ร่างกายจะนำสาร B ไปใช้ประโยชน์ได้ก็ต่อเมื่อสาร B ถูกย่อยสลายด้วยอินซุลินก่อน
เซลลูโลสและสาร A ประกอบด้วยมอนอเมอร์ชนิดเดียวกัน แต่เซลลูโลสและสาร A มีสมบัติการละลายได้ในน้ำต่างกันเพราะมีโครงสร้างต่างกัน
ธาตุสมมติ A B C D E F G เป็นธาตุที่อยู่ในคาบเดียวกันของตารางธาตุ เรียงลำดับตั้งแต่หมู่ IA ถึงหมู่ VIIA ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง (ปีการศึกษา 2558)
ความเป็นโลหะของ A < B < C
ความว่องไวในการเกิดปฏิกิริยากับน้ำของ C < B < A
ความเป็นอโลหะของ G < F < E < D
B มีจำนวนระดับพลังงานของอิเล็กตรอนมากกว่า F
A มีจำนวนเวเลนซ์อิเล็กตรอนมากกว่า G
ธาตุสมมติ X, Y และ Z มีเลขอะตอม 17, 18 และ 20 ตามลำดับ ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง (ปีการศึกษา 2558)
ธาตุ Y อยู่ในหมู่ VIIIA ของตารางธาตุ
ธาตุ X, Y และ Z อยู่ในคาบที่ 3 ของตารางธาตุ
ธาตุ Z มี 10 อิเล็กตรอนในระดับพลังงาน n เท่ากับ 3
ธาตุ X เป็นโลหะ
ธาตุ Z เป็นอโลหะ
ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับธาตุที่เป็นไอโซโทปกัน (ปีการศึกษา 2558)
เลขอะตอมเท่ากัน
จำนวนโปรตอนเท่ากัน
ธาตุต่างชนิดกัน
เลขมวลต่างกัน
จำนวนนิวตรอนต่างกัน
สารประกอบ X เกิดจากธาตุหมู่ IIA คาบ 3 กับหมู่ VIA คาบ 2 และสารประกอบ Y เกิดจากธาตุหมู่ VIIA คาบ 3 กับไฮโดรเจน ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง (ปีการศึกษา 2558)
สารประกอบ X มีจุดเดือดต่ำกว่าสารประกอบ Y
สารประกอบ Y ละลายน้ำเกิดการนำไฟฟ้า
สารประกอบ X เป็นสารประกอบโคเวเลนต์
สารประกอบ Y มีจุดหลอมเหลวสูงกว่าสารประกอบ X
สารประกอบ X มีสถานะเป็นแก๊สที่อุณหภูมิห้อง
ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง (ปีการศึกษา 2558)
สารประกอบไออนิกทุกชนิดละลายน้ำ
ซิงค์ซัลไฟด์เป็นสารประกอบโคเวเลนต์
สารประกอบโคเวเลนต์ทุกชนิดมีสถานะเป็นของเหลว
เอทานอลเป็นสารประกอบไอออนิก
สารประกอบไอออนิกทุกชนิดมีสถานะเป็นของแข็ง
การทดสอบสารในหลอดทดลองทั้ง 5 หลอด (ปีการศึกษา 2558)
หลอดที่ิิ 1 แป้งข้าวเจ้าสุก + น้ำกลั่น + สารละลายไอโอดีน
หลอดที่ 2 เซลลูโลส + กรด HCI +สารละลายไอโอดีน
หลอดที่ 3 แป้งข้าวเหนียวสุก + น้ำกลั่น + สารละลายเบเนดิกต์ (อุ่นในน้ำร้อน)
หลอดที่ 4 แป้งข้าวเหนียวสุก + กรด HCI + สารละลายเบเนดิกต์ (อุ่นในน้ำร้อน)
หลอดที่ 5 สารละลายซูโครส + สารละลายเบเนดิกต์ (อุ่นในน้ำร้อน)
ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง
หลอดที่ 1 เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นสีน้ำเงิน
หลอดที่ 2 เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นสีน้ำเงิน
หลอดที่ 3 ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง
หลอดที่ 4 สารละลายเปลี่ยนเป็นสีส้มและมีตะกอนสีแดงอิฐเกิดขึ้น
หลอดที่ 5 ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง
ข้อใดเป็นพอลิเมอร์ที่เตรียมจากพอลิเมอไรเซชันแบบควบแน่น (ปีการศึกษา 2558)
พอลิเอทิลีน
เซลลูโลส
พอลิสไตรีน
เทฟลอน
พอลิไวนิลคลอไรด์
การกลั่นลำดับส่วนของน้ำมันดิบให้สารไฮโดรคาร์บอนที่มีจำนวนอะตอมคาร์บอนในโมเลกุลดังนี้ (ปีการศึกษา 2558)
ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง
D มีสถานะเป็นแก๊ส
B มีความหนืดมากกว่า C
A มีจุดเดือดสูงสุด
C มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลมากกว่า B
B และ C มีสถานะเป็นของเหลว
ข้อมูลของพอลิเมอร์ 2 ชนิดแสดงดังตาราง (ปีการศึกษา 2558)
ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง
A มีความหนาแน่นมากกว่า B
B มีความเหนียวมากกว่า A
A มีจุดหลอมเหลวสูงกว่า B
B มีความยืดหยุ่นมากกว่า A
พลาสติกที่เป็นผลิตภัณฑ์จากพอลิเมอร์ A และ B เป็นพลาสติกเทอร์มอเซต
ข้อใดไม่ใช่การแปลงสภาพโปรตีน (ปีการศึกษา 2558)
การต้มไข่ขาวให้สุก
การละลายน้ำของไข่ขาวดิบ
การใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรค
การบีบมะนาวใส่ในต้มยำปลา
การล้างท้องผู้กลืนสารหนูโดยให้ดื่มไข่ขาวดิบ
หินปูนทำปฏิกิริยากับสารละลายกรดไฮโดรคลอริกเกิดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สารละลายแคลเซียมคลอไรด์ และน้ำ โดยข้อมูลที่ได้จากการทดลองเป็นดังตาราง (ปีการศึกษา 2558)
ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง
เวลาที่ใช้ในการเกิดแก๊ส CO2 ทุก ๆ 1 cm3 มีค่าไม่เท่ากัน
อัตราการเกิดแก๊ส CO2 ในช่วง 2-3 cm3 มีค่ามากกว่าในช่วง 4-5 cm3
อัตราการเกิดแก๊ส CO2 ทุก ๆ 1 cm3 มีค่าเพิ่มขึ้น
เวลาที่ใช้ในการเกิดแก๊ส CO2 ในช่วง 1-2 cm3 มีค่าน้อยกว่าในช่วง 2-3 cm3
อัตราการเกิดแก๊ส CO2 เฉลี่ยนเท่ากับ 0.011 cm3s-1
การเพิ่มขึ้นของปัจจัยใด ทำให้อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีช้าลง (ปีการศึกษา 2558)
อุณหภูมิ
ตัวหน่วงปฏิกิริยา
พื้นที่ผิวของสารตั้งต้น
ความเข้มข้นของสารตั้งต้น
ตัวเร่งปฏิกิริยา
ข้อใดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบโดยตรง (ปีการศึกษา 2558)
กาว
เส้นใยสังเคราะห์
ยางมะตอย
น้ำมันแก๊สโซฮอล์
ปุ๋ยเคมี
สารประกอบไฮโดรคาร์บอนในข้อใด ได้จากการแยกแก๊สธรรมชาติแล้วนำไปใช้ในยานยนต์ NGV (ปีการศึกษา 2558)
มีเทน
อีเทน
ของผสมระหว่างโพรเพนและบิวเทน
ของผสมระหว่างเอทิลีนและโพรพิลีน
เพนเทน
ข้อใดไม่ใช่ลิพิด (ปีการศึกษา 2558)
น้ำมันมะพร้าว
ไขมันวัว
ไขคาร์นูบา
ขี้ผึ้ง
กรดไขมันอิ่มตั
พิจารณาข้อมูลบางส่วนของจํานวนอนุภาคมูลฐานและเลขมวลของธาตุ L M และ Q ดังนี้
จากข้อมูล ข้อความใดต่อไปนี้ถูกต้อง
M และ Q เป็นไอโซโทปกัน
เลขอะตอมของธาตุ M เท่ากับ 12
สัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ M คือ 22 12 M
Q+ ไอออนมีจํานวนอิเล็กตรอนเท่ากับนิวตรอน
L- ไอออนกับธาตุ M มีจํานวนอิเล็กตรอนเท่ากัน
3
1
2
3
4
5
กำหนดตำแหน่งของธาตุ 7 ชนิด ในคาบที่ 1 - 4 ของตารางธาตุ ดังนี้
จากข้อมูล ข้อสรุปใดต่อไปนี้ถูกต้อง
ธาตุ A B C และ E เป็นธาตุโลหะ
ธาตุ F และ G มีสมบัติทางเคมีแตกต่างกัน
ธาตุ A C D และ G มีเวเลนซ์อิเล็กตรอนเท่ากับ 3
ความเป็นอโลหะของธาตุ G มากกว่า F
ความว่องไวในการเกิดปฏิกิริยาของธาตุกับน้ำเรียงจากมากไปน้อย คือ B A C
1
2
3
4
5
พิจารณาปฏิกิริยาเคมี ตามที่กําหนดให้ต่อไปนี้
กําหนดให้ สาร X ที่เกิดขึ้นในแต่ละปฏิกิริยาเคมีเป็นสารต่างชนิดกัน
จากข้อมูล สาร X ในปฏิกิริยาใดก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ
ปฏิกิริยา ก และ ค
ปฏิกิริยา ข และ ฉ
ปฏิกิริยา ค และ จ
ปฏิกิริยา ก และ ข
ปฏิกิริยา ง และ ฉ
นําแผ่นโลหะแมกนีเซียม (Mg) ขนาด 1 x 10 ตารางเซนติเมตร ทําปฏิกิริยากับสารละลาย
กรดไฮโดรคลอริก (HCI) ที่มีความเข้มข้นร้อยละ 0.75 โดยมวลต่อปริมาตร จํานวน 20 ลูกบาศก์เซนติเมตร
ที่อุณหภูมิห้อง เกิดสารละลายแมกนีเซียมคลอไรด์ (MgCI2) และแก๊สไฮโดรเจน (H2) ดังสมการ
Mg (s) + 2HCI (aq) → MgCI2 (aq) + H2 (g)
เมื่อเขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างปริมาตรแก๊สไฮโดรเจนที่เกิดขึ้นกับเวลา ได้ดังกราฟ A
จากข้อมูล ถ้าต้องการให้การเกิดแก๊สไฮโดรเจนในระบบเปลี่ยนจากกราฟ A เป็นกราฟ B ควรปรับการทดลองอย่างไร
ตัดโลหะแมกนีเซียมให้เป็นชิ้นที่มีขนาดเล็กลง
เปลี่ยนภาชนะใส่สารละลายกรด จากหลอดทดลองเป็นบีกเกอร์
เปลี่ยนภาชนะใส่สารละลายกรด จากหลอดทดลองเป็นบีกเกอร์
เปลี่ยนภาชนะใส่สารละลายกรด จากหลอดทดลองเป็นบีกเกอร์
เพิ่มปริมาตรสารละลายกรดไฮโดรคลอริก จาก 20 ลูกบาศก์เซนติเมตร เป็น 30 ลูกบาศก์เซนติเมตร
ข้อมูลแสดงจํานวนอะตอมคาร์บอนของผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียมที่ได้จากกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบ เป็นดังนี้
จากข้อมูล ข้อสรุปใดต่อไปนี้ถูกต้อง
ผลิตภัณฑ์ S อยู่ชั้นบนสุดของหอกลั่น
ผลิตภัณฑ์ R จุดเดือดสูงกว่าผลิตภัณฑ์ P
ผลิตภัณฑ์ Q จุดหลอมเหลวสูงกว่าผลิตภัณฑ์ R
ผลิตภัณฑ์ S มีสถานะเป็นแก๊ส ส่วนผลิตภัณฑ์ P มีสถานะเป็นของเหลว
ผลิตภัณฑ์ R มีสถานะเป็นของเหลวข้นเหนียวและหนืดมากกว่าผลิตภัณฑ์ S
ข้อใดกล่าวถึงผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียมไม่ถูกต้อง
แก๊สหุงต้มเป็นแก๊สที่ได้จากการผสมระหว่างโพรเพนกับบิวเทน
ขวดพลาสติก ยางสังเคราะห์ และโฟมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
การเผาไหม้น้ำมันเบนซินเกิดแก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์ เขม่า และควัน มากกว่าแก๊ส NGVและ LPG
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10 ช่วยลดมลพิษและลดการใช้น้ำมันจากปิโตรเลียมมากกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20
โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าใช้แก๊สมีเทนเป็นเชื้อเพลิงทดแทนการใช้น้ำมันเตาและลิกไนต์
เพื่อช่วยลดปัญหาการเกิดฝนกรด
โรงงานพลาสติกแห่งหนึ่ง ใช้พอลิเมอร์ 3 ชนิด ที่มีสมบัติแตกต่างกันเป็นวัตถุดิบในการทำผลิตภัณฑ์พลาสติก
ดังนี้
จากข้อมูล พอลิเมอร์ A B และ C ควรมีโครงสร้างแบบใด ตามลําดับ
แบบเส้น แบบกิ่ง แบบร่างแห
แบบร่างแห แบบกิ่ง แบบเส้น
แบบกิ่ง แบบเส้น แบบร่างแห
แบบเส้น แบบร่างแห แบบกิ่ง
แบบกิ่ง แบบร่างแห แบบเส้น
ทดสอบสาร 4 ชนิด ด้วยสารละลาย 3 ชนิด ได้ผลการทดสอบดังตาราง
จากข้อมูล ข้อสรุปใดต่อไปนี้กล่าวถูกต้อง
สาร A มีน้ำตาลซูโครสเป็นองค์ประกอบ
สาร B เป็นสารประเภทมอนอแซ็กคาไรด์
สาร C มีธาตุ C H O และ N เป็นองค์ประกอบ
สาร D คือ น้ำมันที่มีองค์ประกอบมาจากกรดไขมันอิ่มตัวเท่านั้น
สาร A และ B ถูกย่อยด้วยเอนไซม์แล้วจะได้น้ำตาลโมเลกุลคู่เหมือนกัน
นําน้ำเต้าหู้ น้ำอ้อยสด น้ำข้าวโพด น้ำมันรําข้าว และน้ำมันหมู อย่างละ 2 ลูกบาศก์เซนติเมตรใส่หลอดทดลอง
แล้วทําการทดสอบ ดังตาราง
จากข้อมูล ผลการทดสอบข้อใดเกิดขึ้นได้จริง
หลอดที่ 1 เกิดสารสีแดง
หลอดที่ 2 เกิดตะกอนสีแดงอิฐ
หลอดที่ 3 เกิดสารสีน้ำเงิน
หลอดที่ 4 ไอโอดีนไม่เปลี่ยนแปลง
หลอดที่ 5 สีไอโอดีนจางหายไป