50 questions
๑. โขน ละคร ฟ้อนรำ เป็นศัพท์ที่บัญญัติขึ้นในสมัยใด
ก. น่านเจ้า
ข. สุโขทัย
ค. อยุธยา
ง. ธนบุรี
๒. ข้อใดเป็นเรื่องที่ใช้เล่นละครนอก
ก. อุณรุท
ข. อิเหนา
ค. มณีพิชัย
ง. รามเกียรติ์
๓. ละครที่เป็นเรื่องราวของวีรบุรุษคนเดียวกับเรื่องอิเหนาคือเรื่องใด
ก. อุณรุท
ข. ดาหลัง
ค. มโนห์รา
ง. รามเกียรติ์
๔. สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงพระราชนิพนธ์รามเกียรติ์ตอนใด
ก. นางลอย
ข. ถวายลิง
ค. ตามกวาง
ง. ปล่อยม้าอุปการ
๕. โรงละครเอกชนโรงใดเกิดขึ้นในสมัยธนบุรี
ก. ละครหลวงวิชิตณรงค์
ข. ละครเจ้าจอมมารดาอัมพา
ค. ละครกรมพระพิทักษ์เทเวศน์
ง. ละครหลวงวิจิตรวาทการ
๖. สมัยใดได้รวบรวมตำราฟ้อนรำไว้เป็นหลักฐาน
ก. รัชกาลที่ ๑
ข. รัชกาลที่ ๓
ค. รัชกาลที่ ๕
ง. รัชกาลที่ ๖
๗. เรื่องใดเป็นบทพระราชนิพนธ์ในล้นเกล้ารัชกาลที่ ๑
ก. นิราศเมืองแกลง
ข. นิราศพระประธม
ค. นิราศภูเขาทอง
ง. นิราศท่าดินแดง
๘. สมัยใดถือว่าเป็นยุคทองแห่งวรรณคดี
ก. รัชกาลที่ ๑
ข. รัชกาลที่ ๒
ค. รัชกาลที่ ๓
ง. รัชกาลที่ ๔
๙. บทละครเรื่องใดที่วรรณคดีสโสมรยกย่องว่าเป็นยอดแห่งบทละครรำ
ก. อุณรุท
ข. อิเหนา
ค. คาวี
ง. ไชยเชษฐ์
๑๐. โรงละครในข้อใดที่ได้รับการยกย่องว่ามีกระบวนการท่ารำดีกว่าโรงละครอื่น
ก. ละครกรมพระพิพิธโภคภูเบนทร์
ข. ละครของพระองค์เจ้าลักขณานุคุณ
ค. ละครกรมพระพิทักษ์เทเวศน์
ง. ละครกรมหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์
๑๑. จุดเด่นของละครเจ้ากรับคือเรื่องใด
ก. ฝึกหัดโขนเล่นละครนอก
ข. เป็นต้นแบบการรักษาแบบแผนละครนอก
ค. นำละครนอกของเก่ามาปรับปรุง
ง. มีตัวนายโรงไปเป็นละครหลวงที่กรุงกัมพูชา
๑๒. ภาษีโขนละครเกิดขึ้นในสมัยใด
ก. รัชกาลที่ ๒
ข. รัชกาลที่ ๓
ค. รัชกาลที่ ๔
ง. รัชกาลที่ ๕
๑๓. ท่านใดเป็นผู้ปรับปรุงละครขึ้นใหม่ที่เรียกว่าละครพันทาง
ก. กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์
ข. เจ้าพระยาเทเวศน์วงศ์วิวัฒน์
ค. พระองค์เจ้าสิงหนาทราชดุรงค์ฤทธิ์
ง. เจ้าพระยามหินทรศักดิ์ธำรง
๑๔. ละครที่เป็นต้นแบบของละครร้องคือข้อใด
ก. ละครปรีดาลัย
ข. ละครหลวงนฤมิตร
ค. ละครพันทาง
ง. ละครดึกดำบรรพ์
๑๕. ข้อใดไม่ได้เกิดในสมัยรัชกาลที่ ๖
ก. ร.ร.พรานหลวง
ข. ปริ้นซเธียเตอร์
ค. โขนบรรดาศักดิ์
ง. โรเรียนทหารกระบี่หลวง
๑๖. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของละครหลวงวิจิตรวาทการ
ก. ปลุกใจให้รักชาติ
ข. มีระบำสลับฉาก
ค. เล่นเรื่องราววรรณคดีต่างๆ
ง. ฉากสุดท้ายเชิญให้ผู้ชมร่วมร้องเพลง
๑๗. ข้อใดเกี่ยวข้องกับพรานบูรพ์
ก. จันทร์เจ้าขา
ข. เลือดสุพรรณ
ค. พระมหาเทวี
ง. เจ้าหญิงแสนหวี
๑๘. หลวงวิจิตรวาทการได้ตั้งคณะละครที่ชื่อว่าอะไร
ก. คณะผกาวลี
ข. คณะเฉลิมศาสตร์
ค. คณะวิจิตรเกษม
ง. คณะศรีอยุธยารมณ์
๑๙. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. ตัวละครสูงศักดิ์ใช้คำขึ้นต้นว่าเมื่อนั้น
ข. ไชยเชษฐ์ใช้แสดงละครใน
ค. ตัวละครสูงศักดิ์ใช้คำขึ้นต้นว่าบัดนั้น
ง. อิเหนาใช้แสดงละครนอก
๒๐. เพลงใดใช้ในการแผลงฤทธิ์
ก. เชิด
ข. กราวใน
ค. คุกพาทย์
ง. กราวนอก
๒๑. เพลงในข้อใดไม่ใช้ในการเดินทาง
ก. เหาะ
ข. เชิดฉิ่ง
ค. โคมเวียน
ง. ตระนิมิต
๒๒. ถ้าตัวละครเดินทางทางน้ำจะต้องบรรเลงเพลงใด
ก. โล้
ข. เชิด
ค. เสมอ
ง. กลองโยน
๒๓. เพลงใดไม่มีความเกี่ยวข้องกับตัวละครตอนอาบน้ำแต่งตัว
ก. ลงสรง
ข. ชมตลาด
ค. ลงสรงโทน
ง. รัวสามลา
๒๔. เพลงใดใช้ในการเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ก. ทยอย
ข. สาธุการ
ค. กราวใน
ง. กราวรำ
๒๕. เพลงใดใช้แสดงอารมณ์รัก
ก. ร่าย
ข. ทะแย
ค. พ้อ
ง. โอ้ชาตรี
๒๖. ข้อใดเป็นการรำเพื่ออวดฝีมือของผู้รำ
ก. รำคู่
ข. รำหมู่
ค. รำเดี่ยว
ง. รำตีบท
๒๗. ลักษณะเด่นของรำหมู่คืออะไร
ก. สวยงาม
ข. อ่อนช้อย
ค. ความพร้อมเพรียง
ง. อวดฝีมือของผู้รำ
๒๘. ข้อใดเป็นความงามด้านประติมากรรม
ก. การสร้างฉาก
ข. การทำหัวโขน
ค. การบรรเลงดนตรี
ง. การตัดเย็บเสื้อผ้า
๒๙. ละครในข้อใดเป็นต้นกำเนิดของละครตะวันตก
ก. ละครกรีก
ข. ละครโรมัน
ค. ละครสเปน
ง. ละครอิตาลี
๓๐. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของละครโศกนาฏกรรมของกรีก
ก. แบ่งเป็นองก์
ข. ใช้ผู้ชายแสดง
ค. ไม่มีการตายบนเวที
ง. แต่ละฉากมีผู้แสดงไม่เกิน ๓ คน
๓๑. ข้อใดมีความเกี่ยวข้องกับละครตลกขันของกรีก
ก. คอรัส
ข. โคมุส โอด
ค. คอมมีเดีย เดลลาร์เต
ง. ลิวิอุส แอนโครนิคัส
๓๒. ละครในข้อใดมีโครงเรื่องเกี่ยวกับการผิดฝาผิดตัว
ก. ละครตลกขบขันกรีก
ข. ละครโศกนาฏกรรมกรีก
ค. ละครตลกขบขันโรมัน
ง. ละครโศกนาฏกรรมโรมัน
๓๓. ข้อใดเป็นลักษณะของโรงละครโรมัน
ก. มีลักษณะเป็นหอประชุม
ข. เป็นโรงละครกลางแจ้ง
ค. ใช้เกวียนเป็นเวทีการแสดง
ง. มีเฉลียงให้ผู้ชมที่เป็นขุนนางนั่ง
๓๔. ละครในข้อใดมีลักษณะสมจริง
ก. ละครแพสชั่น
ข. ละครเริงรมย์
ค. ละครแนวอภินิหาร
ง. ละครแนวมหัศจรรย์
๓๕. ละครที่แสดงถึงความโง่ ความบาปและการไถ่บาป คือละครประเภทใด
ก. ละครแพสชั่น
ข. ละครแนวอภินิหาร
ค. ละครศีลธรรม
ง. ละครแนวมหัศจรรย์
๓๖. เหตุใดทางศาสนาให้เลิกแสดงละครเกี่ยวกับศาสนา
ก. สอนศีลธรรม
ข. แสดงเรื่องตลก
ค. สลับฉากด้วยการเต้น
ง. แสดงเรื่องเหนือธรรมชาติ
๓๗. ลักษณะเด่นของละครอิตาลีคือข้อใด
ก. ตลกขบขัน
ข. ใช้ผู้หญิงแสดง
ค. ใช้เกวียนมาประกอบฉาก
ง. ผู้แสดงเป็นข้าราชสำนัก
๓๘. ละครอิตาลีในข้อใดที่พัฒนามาจากละครใบ้
ก. ละครพาสเตอราล
ข. ไซเคิล ดรามา
ค. ลิเทอร์จิคัล ดรามา
ง. คอมมีเดีย เดลลาร์เต
๓๙. ฉากที่ใช้ในละครสมัยกลางมีลักษณะอย่างไร
ก. ใช้ฉากธรรมชาติ
ข. ตกแต่งอย่างพิสดาร
ค. มีม่านกั้นหลังเวที
ง. ผู้ชมดูได้สามด้าน
๔๐. ละครที่นำเสนอความจริง โยงเรื่องของชีวิตไปสู่ความคิด โดยใช้การสื่อสารทางศิลปะเป็นละครประเภทใด
ก. ละครแนวสัจนิยม
ข. ละครแนวมหากาพย์
ค. ละครแนวธรรมชาตินิยม
ง. ละครแบบสัญลักษณ์นิยม
๔๑. ละครแนวเอิบเซิร์ดเป็นละครแนวใด
ก. สะท้อนความคิดว่าชีวิตเป็นเรื่องไร้สาระ
ข. มีบทสนทนาสลับกันการบรรยาย
ค. ไม่ลอกเลียนชีวิตประจำวัน
ง. เสนอความจริงที่อยู่ใต้จินตนาการของตัวละคร
๔๒. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของละครสร้างสรรค์
ก. เป็นละครนอกรูปแบบ
ข. มีแบบแผนแน่นอน
ค. พัฒนาการแสดงออก
ง. สร้างนิสัยในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
๔๓. การฝึกละครสร้างสรรค์ในข้อใดที่เน้นการฝึกปฏิภาณไหวพริบ
ก. การฝึกละครใบ้
ข. การฝึกละครสด
ค. การฝึกประสาททั้ง ๕
ง. การฝึกละครที่เป็นเรื่องราว
๔๔. ข้อใดเป็นการพัฒนาในด้านศิลปะ
ก. การใช้ภาษา
ข. การเขียนบท
ค. การกล้าแสดงออก
ง. การอยู่ร่วมกับผู้อื่น
๔๕. ข้อใดไม่ใช่การพัฒนาด้านสังคม
ก. การยอมรับผู้อื่น
ข. การร่วมกัน
ค. การมีทักษะในการทำงาน
ง. การทำงานร่วมกับผู้อื่น
๔๖. ละครที่มีรูปแบบสมบูรณ์ มีองค์ประกอบครบถ้วน โครงเรื่องเป็นมาตรฐานคือละครในข้อใด
ก. ละครเพลง
ข. ละครที่เป็นแบบฉบับ
ค. ละครที่ผู้ชมร่วมแสดง
ง. ละครที่ไม่เป็นแบบฉบับ
๔๗. ละครที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับปัญหาที่เด็กเผชิญทำให้ผู้ชมช่วยกันคิดวิเคราะห์ปัญหา คือละครประเภทใด
ก. ละครหุ่น
ข. ละครเพลง
ค. ละครประเด็นศึกษา
ง. ละครที่ไม่เป็นแบบฉบับ
๔๘. ข้อใดคือความหมายของสาระและความคิดสำคัญของละคร
ก. ภาพ
ข. ตัวละคร
ค. แก่นเรื่อง
ง. โครงเรื่อง
๔๙. ตัวละครที่ช่วยแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ให้ดีขึ้นคือข้อใด
ก. ตัวเอก
ข. ตัวรอง
ค. ตัวตลก
ง. ตัวร้าย
๕๐. ในการเขียนบทละครสั้นข้อใดสำคัญที่สุด
ก. วิกฤตการณ์
ข. การเริ่มเรื่อง
ค. ความขัดแย้ง
ง. การหักเหของเรื่อง